เผยภาพระทึกไฟไหม้ จยย.บนแพขนานยนต์สงขลา นายก.อบจ.สั่งยกระดับความปลอดภัย (ชมคลิป)

0
1391

เผยภาพกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ระทึกไฟไหม้รถจักรยานยนต์ขณะเดินทางมากับแพขนานยนต์สงขลา ซึ่งเป็นแพข้ามทะเลสาบสงขลาระหว่างฝั่ง อ.เมืองสงขลา กับ อ.สิงหนคร ท่ามกลางความระทึก และตกใจของผู้ที่เดินทางมากับแพลำนี้ที่พากันขับรถขึ้นฝั่ง โชคดีที่ทุกคนปลอดภัย แต่แพลำนี้ต้องหยุดให้บริการ ด้านนายก อบจ.สงขลา เผยสาเหตุที่ดับไฟไม่ทัน เพราะ ถังดับเพลิงอยู่ตรงจุดที่เกิดไฟไหม้พอดี พร้อมสั่งยกเครื่องความปลอดภัยทั้งระบบ และแพลำนี้หยุดให้บริการชั่วคราว เพื่อตรวจเช็คความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุไฟไหม้รถจักรยานยนต์คันหนึ่งที่เดินทางมากับแพขนานยนต์สงขลา ซึ่งเป็นแพข้ามทะเลสาบสงขลาระหว่างฝั่ง อ.เมืองสงขลากับฝั่ง อ.สิงหนคร เมื่อเวลาประมาณ 09.18 น. ของวันนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกใจให้กับผู้ที่เดินทางมากับแพลำนี้ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์จำนวนมาก แต่โชคดีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่แพกำลังเข้าเทียบท่าพอดี ทำให้รถจักรยานยนต์ทั้งหมดพากันขับขึ้นมาบนฝั่งได้ทันโดยไม่มีใครได้รับอันตรายหรือสร้างความเสียหายให้กับรถคันอื่น

โดยขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้เนื่องจากถังดับเพลิงติดตั้งอยู่ตรงจุดที่เกิดไฟลุกไหม้พอดิบพอดี  ต้องรอให้แพขนานยนต์อีกลำเดินทางมาถึงจึงนำถังดับเพลิงจากแพอีกลำขึ้นไปฉีดดับไฟเอาไว้ได้รวมเวลาที่ไฟลุกไหม้นานกว่า 5 นาที แต่ขณะเกิดเหตุไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนการเดินทางบนแพไม่หนาแน่น มีเฉพาะรถจักรยานยนต์ไม่มีรถยนต์จึงสามารถระบายรถขึ้นฝั่งได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยทุกคน

สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ถูกไฟไหม้เป็นรถยามาฮ่ารุ่นฟีโน่ หมายเลขทะเบียน 1-กต-985 นครศรีธรรมราช ของ นายธรากร อิสภาพ อายุ 21ปี นักศึกษาสถานบันแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช โดยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขับรถจักรยานยนต์มาเที่ยวที่ จ.สงขลา ระหว่างขึ้นแพขนานยนต์จากฝั่ง อ.เมืองสงขลา ได้สังเกตเห็นแล้วว่ารถน้ำมันรั่วออกมา และกะว่า จะไปซ่อมที่ฝั่งตรงข้าม แต่ขณะที่กำลังจะสตาร์ทรถขึ้นฝั่งปรากฏว่า ไฟได้ลุกขึ้นมาทันที และรวดเร็ว จึงต้องทิ้งรถวิ่งหนีขึ้นฝั่ง

ด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า แพขนานยนต์ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของ อบจ.สงขลา หลังเกิดเหตุต้องหยุดให้บริการแพลำนี้ชั่วคราว เพื่อตรวจเช็คสภาพแพอย่างละเอียด ซึ่งเบื้องต้นพบว่า พื้นและผนังแพได้รับความเสียหายประเมินมูลค่าราว 3 หมื่นบาท

ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้นั้น เนื่องจากถังดับเพลิงอยู่ตรงจุดที่ไฟไหม้พอดี และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปได้ โดยหลังจากนี้จะเน้นเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้นโดยจะติดตั้งถังดับเพลิงทุกมุมของแพ และจะซ้อมรับมือเหตุฉุกเฉินทุก 6 เดือน.

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สงขลา