9ตค. เริ่มที่จังหวัดปัตตานี  บรรยากาศในเทศกาลวันสารทเดือนสิบที่วัดมุจลินทวาปีวิหาร หรือวัดตุยง วัดเก่าคู่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ประชาชนชาวไทยพุทธชาวปัตตานีและประชาชนลูกหลานที่มาจากต่างถิ่น และจ.ใกล้เคียง ต่างพร้อมกันมาร่วมเข้าวัดฟังธรรมและทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว และยังมีประเพณีชิงเปรต ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญของชาวไทยพุทธตอนล่าง ในงานวันสารทเดือนสิบนี้ทั้ง3จังหวัด เป็นไปอย่างคึกคัก

โดยมี นายไกรศร วิศิษฐวงศ์ รองเลขาธิการศอ.บต.พร้อมทั้ง นายเอก ยังอภัย ณ.สงขลา นายอำเภอหนองจิก ,พันเอกหาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.43และหน่วยงานราชการชาวไทยพุทธทุกฝ่ายเข้าร่วมทำบุญประเพณีกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

ซึ่งงานประเพณีการชิงเปรตนี้จะมีร้าน ที่สร้างไว้สูงขึ้นไปจากนั้นมีการตั้งวางอาหารขนมผล ไม้ต่างๆเป็นจำนวนมาก
การจัดกิจกรรมสนุกสนานให้กับเด็กๆทั้งผู้ใหญ่ได้ร่วมกันมีการจัดประชัน เจดีย์ขนมโบราณ แห่ตีกลองยาว อีกทั้งมีการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ไว้ให้ผู้แข่งขันอีกด้วย

ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส ที่วัดประชาภิรมย์ ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ประชาชนชาวไทยพุทธและร่วมเข้าวัดฟังธรรมและทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้วยังมีประเพณีชิงเปรตซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญในงานวันสารทเดือนสิบซึ่งการชิงเปรตนี้จะมีร้านเป็นตึกแถวที่เป็นร้านเป็ดมีการตั้งวางอาหารขนมผล ไม้ต่างๆเป็นจำนวนมาก

และเช่นเดียวกัน ที่อำเภอสุไหงปาดี ประชาชนร่วมทำบุญวันสารทเดือนสิบ 2 วัดคึกคัก  ทั้งที่วัดประชุมชลธาราและวัดโบราณสถิต ตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส พุทธศาสนิกชนชาวอำเภอสุไหงปาดี ต่างร่วมประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องในวันสารทเดือนสิบซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมายาวนาน

และที่จ.ยะลา  ที่สำนักสงฆ์ จันทรัตนาราม  ตำบลยะรม อำเภอเบตง  จังหวัดยะลา  พุทธศาสนิกชนชาวอำเภอเบตงและตำบลใกล้เคียง รวมทั้งชาวไทยในมาเลเซีย  ต่างเดินทางมาร่วมประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องในวันสารทเดือนสิบซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน ซึ่งบรรยากาศวันส่งเปรต พุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สำหรับการทำบุญวันสารทเดือนสิบ หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า วันชิงเปรตนั้นในเดือนสิบ มีการทำบุญที่วัด 2 ครั้ง ครั้งแรก วันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบเรียกว่า วันรับเปรต และครั้งที่สอง วันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ เรียกว่า วันส่งเปรต การทำบุญทั้งสองครั้งเป็นการทำบุญที่แสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการีผู้ล่วงลับไปแล้วโดยอุทิศส่วนกุศลไปให้วิญญาณของบรรพบุรุษที่ตกอยู่ในเปรตภูมิเป็นคติของศาสนาพราหมณ์ที่ผสมในประเพณีของพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนนิยมไปทำบุญ ณ วัดที่เป็นภูมิลำเนาของตนเพื่อร่วมพิธีตั้งเปรตและชิงเปรต โดยจะนำขนมเดือนสิบ เช่น ขนมลา ขนมพอง ขนมกง ขนมเจาะรูหรือขนมเจาะหูขนมบ้า ขนมต้ม และผลหมากรากไม้ ไปทำบุญที่วัด สืบทอดประเพณีและทำบุญให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับอีกด้วย

ทีมข่าว@ชายแดนใต้  จ.ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส รายงาน