ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 2 จังหวัดยะลา หน่วยบริการเบตง ใช้ “อาชาบำบัด” เสริมพัฒนาการเด็กออทิสติก

0
709

  ยะลา –ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 2 จังหวัดยะลา หน่วยบริการเบตง ใช้ ‘อาชาบำบัด’ เสริมพัฒนาการเด็กออทิสติก เพื่อพัฒนาการเด็กกลุ่มออทิสติก ช่วยลดอาการวอกแวก เพิ่มความมั่นคงทางอารมณ์ พร้อมดึงสัมผัสธรรมชาติสายลม กระตุ้นความสนใจ

เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ ฟาร์มม้า Betong Riding Club อำเภอเบตง จังหวัดยะลา นายเกษมสุข  พสุนธราธรรม  ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา2จังหวัดยะลา และกิ่งกาชาดอำเภอเบตง เข้าเยี่ยมชมกิจกรรม”อาชาบำบัด”เพื่อกระตุ้นพัฒนาการเด็กพิเศษและ เพื่อให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานและน้องๆศูนย์การศึกษาพิเศษ(หน่วยบริการเบตง)โดยใช้อาชาบำบัดเสริมพัฒนาการเด็กกลุ่มออทิสติก เผยงานวิจัยชี้ช่วยลดอาการวอกแวก เพิ่มความมั่นคงทางอารมณ์ พร้อมดึงสัมผัสธรรมชาติสาย กระตุ้นความสนใจ

นายเกษมสุข  พสุนธราธรรม  ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา2จังหวัดยะลา เปิดเผยถึงโครงการอาชาบำบัด สำหรับเด็กกลุ่มอาการออทิสติก ว่า วัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นพัฒนาการในด้านความรู้สึกและการรับรู้เข้าใจ ด้านการเข้าสังคม และด้านสุขภาพร่างกาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ปกครองและเด็กกลุ่มอาการออทิสติกอายุระหว่าง 3-5 ปี ที่เข้ารับบริการ ณ หน่วยบริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษและครอบครัว ซึ่งทางศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา2จังหวัดยะลา และกิ่งกาชาดอำเภอเบตง  ได้เล็งเห็นว่าการช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้นอกเหนือจากการฝึกด้านพัฒนาการและรักษาด้วยยาแล้ว การบำบัดด้วยวิธีการต่างๆ ก็สามารถช่วยให้เด็กได้รับการกระตุ้นพัฒนาการให้ดีขึ้นได้ โดยการบำบัดอย่างหนึ่งที่กำลังเป็นที่น่าสนใจคือการบำบัดด้วยสัตว์ ซึ่งช่วยในการรับรู้สัมผัส เสริมสร้างสมาธิ ให้สัมผัสที่อบอุ่น ปลอดภัยและเป็นมิตร เพิ่มแรงจูงใจในการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งยังช่วยสร้างสัมพันธภาพและการตอบสนองทางอารมณ์ด้วย

น.ส. กูนูรอัยนี  ราชมุกดา ครูผู้สอนศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 2 จังหวัดยะลา หน่วยบริการเบตงกล่าวว่า การขี่ม้าตามธรรมชาติ ทำให้ผู้ขี่ได้รับการบำบัดจากการรับลมที่พัดโบก ได้กลิ่นอายจากดอกไม้ ซึ่งอำเภอเบตงเป็นอำเภอที่ไม่มีศูนย์ทหารม้าที่รับบำบัดเด็กกลุ่มนี้ หากต้องการบำบัดรักษาหรือกระตุ้นพัฒนาการโดยใช้อาชาบำบัดแบบเต็มรูปแบบ ผู้ปกครองจะต้องเดินทางไปถึง จ.ปัตตานี  ทำให้การเดินทางไม่สะดวก และอาจไม่สามารถพาไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่อำเภอเบตง มีลักษณะภูมิประเทศที่มีพื้นที่ภูเขาล้อมรอบ  มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เด็กได้ชี้ชวนกันดูแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้รับรู้และ สัมผัสสายลมที่พัดผ่านกาย ช่วยให้ผ่อนคลาย จึงเป็นสถานที่ที่เอื้อต่อการให้ผู้ปกครองเข้าถึงการกระตุ้นพัฒนาการและการช่วยเหลือเด็กกลุ่มอาการออทิสติกได้สะดวกและง่ายขึ้น

น.ส. กูนูรอัยนี ฯ กล่าวอีกว่า การใช้อาชาบำบัดเป็นการดึงเขาออกมาสัมผัสและรับรู้โลกภายนอก โดยมีสัตว์เป็นเสมือนสื่อกลางที่นอกจากจะพาเขาโลดแล่นไปมาแล้ว ยังช่วยเชื่อมโยงก่อเกิดความสัมพันธ์กับคนอื่น เรียนรู้ที่จะสื่อสารกับโลกภายนอกมากขึ้น ซึ่งจากรายงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า การใช้ม้าในการบำบัดเด็กกลุ่มอาการออทิสติกทำให้เด็กมีพัฒนาการทางสังคมดีขึ้น มีการรับรู้และไวต่อการสัมผัส ลดอาการวอกแวกง่าย การแยกตัวและช่วยเพิ่มความเข้าใจทางอารมณ์ นอกจากนั้น ในประเทศที่พัฒนาแล้วยังมีแนวคิดใหม่ว่า การใช้เทคโนโลยีต่างๆ ที่มีราคาแพงไม่สามารถรักษาโรคหรืออาการทุกอย่างได้ และไม่สามารถทำให้มนุษย์มีสุขภาพที่ดีได้ จึงหันมาสนใจศาสตร์ในสมัยโบราณที่อาศัยการรักษาด้วยปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ดิน น้ำ ลม (อากาศ) และแร่ธาตุต่างๆ ดังเช่นวิธีการรับลมที่พัดโบกตามธรรมชาติ

นอกจากม้าแล้ว ยังสามารถใช้สัตว์อื่นๆ อย่าง ช้าง กระบือ กระต่าย ในการบำบัดได้ด้วย แต่เหตุผลที่เลือกม้าเพราะก้าวย่างเป็นจังหวะ ซึ่งจะช่วยเรื่องกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว สมาธิ ลดภาวะไม่อยู่นิ่ง อย่างไรก็ตาม ผลจากการบำบัดจะแตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรงของอาการเด็กด้วย ซึ่งในการวัดผลความสำเร็จของโครงการ ทางเราขอความร่วมมือผู้ปกครองในการวัดผลพฤติกรรม และทดสอบพฤติกรรมและพัฒนาในด้านการรับรู้ ความเข้าใจ ทักษะทางสังคม ทักษะทางการเคลื่อนไหว โดยให้ผู้ปกครองถ่ายวิดีโอไว้ด้วย เนื่องจากผู้ปกครองถือเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด และสามารถต่อยอดพัฒนาการให้เด็กต่อไปได้

ข่าว…เจษฎา สิริโยทัย ทีมข่าว@ชายแดนใต้ อ.เบตง จ.ยะลา