ครบ 7 วันพื้นที่บังคับใช้กฎอัยการศึก หลังเหตุซุ่มยิงทหาร 2 ศพ 2 ตำบลหนองจิก เช็คอาวุธปืน ยานพาหนะ,รถ,เรือ ด้านนายอำเภอประสาน จนท.สร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้าน

0
1740

ครบ 7 วันพื้นที่บังคับใช้กฎอัยการศึกให้ 2 ตำบล นำอาวุธปืนเรือรถมาแสดงต่อ จนท.หลังเหตุซุ่มยิงทหาร 2 ศพ ด้านนายอำเภอประสาน จนท.สร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้าน ยืนยันให้ความเป็นธรรม พร้อมช่วยเหลือครอบครัว

ความคืบหน้า กรณีการประกาศใช้กฎหมายพิเศษภายใต้กฎอัยการศึก และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สั่งกระชับพื้นที่ โดยใช้ยุทธการ ยุทธวิธีของทหารในการสนธิกำลัง 3 ฝ่ายมากถึง 1 พันนาย พร้อมประกาศเป็นพื้นที่ใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อไล่ล่าจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุซุ่มยิงเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานชุดร้อย ทพ.4303ขณะลาดตระเวนเส้นทาง เป็นเหตุให้ 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ อีก 4 นาย เหตุเกิดพื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านบางทัน ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ11กันยายน ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 23 กย. เพื่อติดตามไล่ล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุดักซุ่มกำลังพลในครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่ายังอยู่ในพื้นที่ และได้ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ ในพื้นที่ 2 ตำบล คือในตำบลบางเขา และ ตำบลท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นำอาวุธปืน เครื่องกระสุน และยานพาหนะ เรือ รถยนต์ และ จักรยานยนต์ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2557 เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่ วันที่ 17 – 23 กย.ซึ่งวันนี้วันสุดท้าย

 

ในส่วนของอาวุธปืนนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ 2 ตำบล ได้นำอาวุธปืนที่มีการขึ้นทะเบียนไว้กับอำเภอหนองจิก ต่างก็ได้นำอาวุธปืนทุกชนิดมาตรวจสอบ ณ จุดตรวจที่ว่าการอำเภอหนองจิกเกือบหมดทุกกระบอก ได้แก่พื้นที่ตำบลท่ากำชำ มีอาวุธปืนในทะเบียนการอนุญาตครอบครอง ทั้ง ปืนสั้น, ปืนยาว,ลูกซอง ทั้งหมด 55 กระบอก และเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนนอกพื้นที่ 11 กระบอก

ในส่วนของอาวุธปืนในพื้นที่ตำบลบางเขา มีอาวุธปืนยาวและสั้นที่ในทะเบียนมีการอนุญาตครอบครองอาวุธปืนนั้นจำนวน 71 กระบอก มารายงานจำนวนหมดแล้วและมีปืนนอกพื้นที่อีก 9 กระบอก โดยอาวุธปืนที่ได้มารายงานทั้ง 2 ตำบลยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเหตุความไม่สงบที่ผ่านมาแต่อย่างใด ส่วนในเรื่องของยานพาหนะเรือ รถยนต์ รถจักรยานยนต์นั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปขึ้นทะเบียนตามจุดบริการต่างๆที่ได้นัดหมายกันในพื้นที่ จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่ เป็นเรือชาวบ้านที่ไม่ได้ต่อทะเบียน

ด้าน นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเมืองหนองจิก พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้ประชุมสรุปผลการปฏิบัติและลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินการอีกครั้ง

นายเอก ยังอภัย ณ. สงขลา นายอำเภอเมืองหนองจิก เปิดเผยว่า จากการดำเนินการแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนของ การเฝ้าระวังและป้องกัน ยุทธการกระชับพื้นที่ ได้ประกาศเรียกตรวจสอบอาวุธปืนในพื้นที่ทั้งหมดและ ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี และจากการปฎิบัติตามยุทธการครั้งนี้ ทำให้ได้ทราบข้อมูลชัดเจนขึ้น และนอกจากนี้ยังมีอาวุธจากภายนอกพื้นที่ด้วย ส่วนที่ 2 คือการ สร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน และเยี่ยมเยียน ครอบครัวผู้เสียหาย ในเรื่องของ เรือ และ รถยนต์ ยวดยานพาหนะ ต่างๆ ได้แนะนำให้ประชาชนดำเนินการให้ถูกต้อง และได้สร้างความเข้าใจ คลี่คลายความหวาดระแวง ให้ทราบในความจำเป็นของเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฎิบัติการ และทั้งนี้ให้ชาวบ้านสามารถออกเรือทำมาหากินได้ตามปกติ

จากนั้น ได้เข้าเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้เสียหาย สร้างความสบายใจ ยืนยัน เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรม เป็นไปตามกฎหมาย และจะให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวด้วย เช่นเรื่องเข้าไปเยี่ยมที่ศูนย์ควบคุม และช่วยเหลือเรื่องรายได้ที่กระทบเนื่องจากสามีไม่อยู่ หรือเรื่องลูกๆไปโรงเรียนเป็นต้น ซึ่งในขณะนี้ มีผู้ตกเป็นต้องสงสัย ถูกจับกุมในคดีดังกล่าวและถูกนำตัวเข้าไปยังศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก ทั้งหมด 7 ราย คือในส่วนของ ต. บางเขา 5 ราย และ ต.ท่ากำชำ 2 ราย

ทีมข่าว@ชายแดนใต้ ปัตตานี