เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ปลูกทุเรียนหมอนทองบนภูเขาเพื่อคุณภาพการส่งออก
ยะลา – เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ปลูกทุเรียนหมอนทองบนภูเขาเพื่อการส่งออก บนเนื้อที่ 20 ไร่ จำนวน 400 ต้น มีการบริหารจัดการที่ดีจนได้รับคัดเลือกให้เป็นแปลงต้นแบบในการปลูกทุเรียน การันตีความอร่อยจากรางวัลชนะเลิศในงานมหกรรมผลไม้ของดีเมืองยะลา
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.61 นายวิพัก แซ่ลิ่ม เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ในพื้นที่ ม.11 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ได้นำคนงานไปเก็บเกี่ยวทุเรียนหมอนทองบนภูเขาในช่วงนี้ เพื่อการส่งออก บนเนื้อที่ 20 ไร่ จำนวน 400 ต้น มีการบริหารจัดการที่ดีจนได้รับคัดเลือกให้เป็นแปลงต้นแบบในการปลูกทุเรียน และเป็นอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม. ) จากสํานักงานเกษตรอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
นายวิพัก แซ่ลิ่ม เกษตรกรชาวสวนทุเรียน กล่าวว่า ด้วยลักษณะภูมิประเทศของอำเภอเบตง ที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา สวนทุเรียนที่นี่จึงปลูกบนภูเขาเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับสภาพดินฟ้าอากาศเอื้ออำนวย ส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพ ปีนี้ทุเรียนให้ผลผลิตดีกว่าปีที่ผ่านมา ผลทุเรียนติดลูกมาก ชาวสวนในพื้นที่จะปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองเป็นหลัก สำหรับสวนของตนเคยส่งทุเรียนหมอนทอง เข้าประกวดใน งานมหกรรมผลไม้ ของดีเมืองยะลา และวิชาการเกษตร ประจำปี 2560 ที่ผ่านมา ได้รับรางวัลชนะเลิศ ทำให้มีพ่อค้าคนกลางหลายจังหวัดมาติดต่อขอรับซื้อเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน เนื่องจากทุเรียนพันธุ์หมอนทองของชองทางสวนมีรสชาติ หวานอร่อย เนื้อเนียน ละมุนลิ้น ไม่เละ มีสีเหลืองอ่อนๆ ส่วนเม็ดจะเล็กลีบ ทำให้เนื้อเยอะ ตอนนี้ขายส่งในราคา กิโกรัม ละ 95 บาท ในแต่ละวัน ส่งออก ไปยังโรงคัดบรรจุผลไม้ เพื่อการส่งออก ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน GMPที่จังหวัดชุมพร วันละ 4-8 ตัน เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะทางประเทศจีน ซึ่งผู้ส่งออก จะนำไปแปรรูปเป็น Freeze Dry (อบแห้ง) และ Cool Room (แช่แข็ง) ปัจจุบันทุเรียน Freeze Dry เกรด A ราคาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 1,400-1,500 บาท นอกจากนี้ตนยังขายทุเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ บรรจุกล่องพัสดุน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ในราคา 1,200 บาท และกล่องสำหรับพัสดุน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ในราคา 2,300 บาท รวมค่าจัดส่งแล้ว ทำให้ฤดูผลไม้ปีนี้ มีรายได้หลักล้านบาทเลยทีเดียว หากอยากชิมรสชาติความอร่อยของทุเรียนหมอนทองของสวนก็สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่เฟสบุ๊ค พี่เบิดร์ ออฟโรด
นายวิพัก แซ่ลิ่ม กล่าวอีกว่า การจะปลูกทุเรียนให้ได้คุณภาพนั้น การบริหารจัดการเรื่องดินเป็นส่วนสำคัญ ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่จากสํานักงานเกษตรในพื้นที่ มาให้ความรู้ถึงการวิเคราะห์ดิน ออกแบบสูตรปุ๋ย ตามค่าวิเคราะห์ดิน การผสมปุ๋ยตามสูตรที่เหมาะสม ให้ปุ๋ย ให้น้ำ อย่างถูกวิธีตามหลักการใหม่ ๆ ทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น มีคุณภาพดี ทั้ง น้ำหนัก รูปทรง จัดว่าอยู่ในเกรด A และ B ขณะเดียวกัน ก็ช่วยลดในส่วนของต้นทุนได้มาก ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเหมือนเป็นการกระตุ้นให้เกษตรกร รักต้นทุเรียน และให้ความสำคัญจริง ๆ ดูแลบำรุงรักษาทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นฤดูเป็นต้นมาจนถึงระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต
สำหรับเกษตรกรที่สนใจ จะมาศึกษาดูงาน ในการเพิ่มประสิทธิภาพทุเรียน การรวมกลุ่มทำการผลิต การบริหารจัดการร่วมกัน และรวมกันจำหน่ายโดยมีตลาดรองรับที่แน่นอน มีการลดต้นทุนการผลิต ผลผลิตเพิ่มขึ้น มีคุณภาพได้มาตรฐาน สนับสนุนความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐอนุรักษ์และฟื้นฟูสวนทุเรียนให้ยั่งยืน โดยสามารถติดต่อผ่านสำนักงานเกษตรอำเภอเบตง จังหวัดยะลา หรือ เฟสบุ๊ค พี่เบิดร์ ออฟโรด
ข่าว./เจษฎา สิริโยทัย ภาพ./อิมรอน ดามาอู อ.เบตง จ.ยะลา