สิ้น คุณวุฒิ มงคลประจักษ์ อดีตนายกเล็กเมืองเบตงคนดัง ด้วยอาการโรคหัวใจขณะเดินทางกลับตามเจตนารมณ์

0
3730

ยะลา-ปิดฉากชีวิตอดีตนายกเทศมนตรีเมืองเบตง จ.ยะลา  “คุณวุฒิ มงคลประจักษ์” คนพัฒนาเมืองเบตง สิ้นใจอย่างสงบในวัย 71 ปี ด้วยอาการโรคหัวใจ ขณะเดินทางกลับจาก รพ.มอ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อกลับมารักษาตัวที่อ.เบตง ตามเจตนารมณ์ เพื่อต้องการกลับมาบ้านเกิด โดยได้หมดลมหายใจบริเวณ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา สั่งเสียจัดงานศพเรียบง่าย ตั้งสวด 13 คืน 

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 61 ที่สมาคมแต้จิ๋ว(สมาคมตระกูลราษฎร์) อ.เบตง จ.ยะลา นายศิริ มงคลประจักษ์ บุตรชายนายคุณวุฒิ มงคลประจักษ์ เปิดเผยว่า เมืองเบตง ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของชาวเบตง คือ นายคุณวุฒิ มงคลประจักษ์ ในวัย 71 ปี โดยเสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ระหว่างเดินทางจาก รพ.มอ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อกลับมารักษาตัวที่อ.เบตง ตามเจตนารมณ์ เพื่อต้องการกลับมาบ้านเกิด โดยได้หมดลมหายใจบริเวณ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เมื่อเวลา 14.40 น.

ดร.คุณวุฒิ มงคลประจักษ์  ได้สั่งเสียไว้ว่าให้บำเพ็ญกุศลอย่างเรียบง่าย โดยตั้งศพที่สมาคมแต้จิ๋ว(สมาคมตระกูลราษฎร์) อ.เบตง จ.ยะลาให้มีพิธีสวดอภิธรรมเวลา 19.00 น. เป็นเวลา 13 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย..-15 ก.ย. 61 และหลังครบ 13 วัน

และในวันที่ 15 กันยายน พิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ ฌาปณสถานเทศบาลเมืองเบตง วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง อ.เบตง จ.ยะลา.ดร.คุณวุฒิ มงคลประจักษ์   เกิดเมื่อวันที่  1  พฤษภาคม  2490  ที่บ้านเลขที่ 256 ถนนสุขยางค์ ตำบลเบตง อำเภอเบตง  จังหวัดยะลา  เป็นบุตรคนที่ 2  ของนายซีฮ่าง และนางยิบเกียว แซ่หยิบ มีพี่น้อง 8 คน ผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 3 คน สถานภาพของครอบครัวได้สมรส กับนางรวีวรรณ (ยิ่งยงพันธ์) มงคลประจักษ์  มีบุตรธิดา 3 คน

ประวัติการศึกษา ได้รับการศึกษาขั้นต้น  จนจบมัธยมศึกษาปีที่  3  ที่อำเภอเบตง จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพสาขาช่างยนต์จากโรงเรียนช่างกลไทยสุริยะกรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นได้รับการอบรมและศึกษาดูงานในประเทศ  และต่างประเทศ   เช่น   อบรมหลักสูตรนักปกครองท้องถิ่นระดับสูง  จากวิทยาลัย  การปกครอง  กระทรวงมหาดไทยศึกษาดูงานที่ประเทศเกาหลี  ฮ่องกง  ไต้หวัน  ฝรั่งเศส  อังกฤษ อิตาลี  สวิสเซอร์แลนด์  สาธารณรัฐประชาชนจีน  ญี่ปุ่น  อเมริกา  อินโดนีเซีย  และมาเลเซีย

เกือบ 30 ปี จากการที่ทุ่มเทแรงกาย ความคิด กำลังใจและกำลังทรัพย์เพื่อพัฒนาอำเภอเบตงให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยการใช้วิสัยทัศน์ที่กว้างไกล คือเบตงเมืองงามน่าอยู่คู่การลงทุน หนุนการท่องเที่ยว ประชากลมเกลียว ยึดเหนียววัฒนธรรม ค้ำจุนประเพณี ใช้ทรัพยากร อย่างมีคุณค่า สนองปวงประชา เร่งพัฒนาบุคลากร และประสบการณ์ในการบริหาร กำหนดทิศทางทางการพัฒนาเมืองเบตงให้เป็นเมืองน่าอยู่ โดยอาศัยความได้เปรียบทางทรัพยากรทางธรรมชาติ สภาพแวดล้อมที่ดีมีทุนชุมชนซึ่งได้แก่ ผลผลิตทางการเกษตร แหล่งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ความสมัครสมานสามัคคีของคนในท้องถิ่น ตลอดจนความเป็นเมืองชายแดนที่สวยงาม สงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวโดยอาศัยการประสานสัมพันธ์กับหน่วยงานทั้งภายในและประเทศเพื่อนบ้านตลอดจนความร่วมมือของเอกชนระดมสรรพกำลังและงบประมาณมาพัฒนา สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในอำเภอเบตง ให้มีรายได้ของประชากรต่อหัว อยู่ในเกณฑ์ดีจนทำให้คนทั่วประเทศรู้จักเมืองเบตง ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน

ดร.คุณวุฒิ  มงคลประจักษ์ ประกอบอาชีพด้านธุรกิจมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 และในปี พ.ศ. 2523 ได้รับการเลือกตั้งและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเทศมนตรีเบตง ปี  พ.ศ. 2532 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเบตง ภาระหน้าที่ในตำแหน่งนี้ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานองค์กรอื่นๆ ในสังคมและสถาบันต่างๆ มากมาย เช่น   เป็นอนุกรรมการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ   กรรมการจัดหาเงินเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิ  พอ.สว.   ผู้ประสานงานและกรรมการดำเนินการจัดสร้างพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ วัดพระพุทธาวาส  อำเภอเบตงถวายแด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  ในวโรกาสทรงพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการทดสอบปลูกพันธุ์ไม้ดอกเมืองหนาวที่อำเภอเบตง   คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาชายแดนไทย-  มาเลเซีย ที่ปรึกษาสภาธุรกิจชายแดนภาคใต้   ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดยะลา   ประธานชมรมนกเขาชวาเสียง อำเภอเบตง   จัดตั้งศูนย์ศิลปวัฒนธรรมอำเภอเบตง และสนับสนุนงานสาธารณะกุศลต่างๆ เป็นต้นจนผลงานเป็นที่ประจักษ์จนได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์แก่ท้องถิ่นบ้านเมืองเป็นความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติต่อวงศ์ตระกูลและเป็นสิ่งภาคภูมิใจตราบนานเท่านาน

พ.ศ.2530ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

พ.ศ.2534ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุมาภรณ์ มงกุฎไทย

พ.ศ.2539ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจตุมาภรณ์ช้างเผือก

พ.ศ.2541ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นA.M.P.จากองค์สุลต่าน รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย

พ.ศ.2542ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตราภรณ์มงกุฎไทย(ต.ม.) พ.ศ.2542ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นD.P.M.P.(DARJAH DATO PADUK MAHKOTA PERAK) จากองค์สุลต่าน รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย (สายสะพาย)

ภาพ/ข่าว.เจษฎา สิริโยทัย ทีมข่าว@ชายแดนใต้ อ.เบตง จ.ยะลา