กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงความคืบหน้าเหตุปิดล้อมตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อ 16 ส.ค.61 และชี้แจงเหตุคนร้ายยิงราษฎรที่ อ.รามัน จ.ยะลา, เหตุระเบิดในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 19 ส.ค.61
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2561 เวลา 14.00 น.พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และ พันเอก ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงความคืบหน้า กรณีหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมช่วยส่วนรมยะลา ร่วมกับชุดสอบสวนคดีสำคัญตำรวจภูธรยะลา ได้สืบทราบว่าบุคคลต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดสวนยางพาราในพื้นที่ จังหวัดยะลา ในห้วงที่ผ่านมา ได้ทำการเข้าบังคับใช้กฎหมายเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยในบ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 4 ต.สะแอ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2561 เวลา 03.00 น. ซึ่งได้ตรวจพบบุคคลหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน จึงได้ประสานผู้นำศาสนาในพื้นที่เจราให้ออกมามอบตัว กลุ่มผู้ต้องสงสัยยอมออกมามอบตัว จำนวน 5 คน และอีก 2 คน ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จึงเกิดการปะทะทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และยึดอาวุธปืนเล็กยาวได้ จำนวน 4 กระบอก, อาวุธปืนพก จำนวน 2 กระบอก
จาการตรวจสอบพบว่า บุคคลทั้ง 7 ราย มีหมายจับ ป.วิอาญา และได้นำทั้ง 5 ราย ไปซักถามขยายผล ณ หน่วยซักถาม กรมทหารพรานที่ 14 ทุกคนยอมรับสารภาพว่าได้รวมกลุ่มกันเพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ และมีส่วนก่อเหตุในพื้นที่ ดังนี้
– นาย ซานูซี หะยีกอเดย์ ยอมรับว่ามีหน้าที่ดูแลผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบหนีมาพักในหมู่บ้าน, มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.บันนังสตา และ อ.กรงปินัง จ.ยะลา จำนวน 7 เหตุการณ์
– นาย อับดุลเลาะ กูทา ยอมรับว่ามีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ความรุนแรง จำนวน 8 เหตุ ในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
– นาย อาซูวัน ลุมโมะ ให้การยอมรับว่าก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอม บริเวณหน้าโรงแรม ฮอลิเดย์ ฮิลล์ อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2557
– นาย มะซูรี สาเมาะ ให้การยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดตลาดพิมลชัย เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2561
สำหรับอาวุธปืนที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุ จำนวน 6 กระบอก เป็นอาวุธปืนเล็กยาว แบบ เอ็ม.16 จำนวน 2 กระบอก ปืนเล็กยาว เอเค – 47, เอเค 102 จำนวน 2 กระบอก และอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 2 กระบอก จากผลการตรวจสอบ พบว่า ปืนเล็กยาว เอ็ม.16 ทั้ง 2 กระบอก เคยนำไปใช้ก่อเหตุมาแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ
จากกรณีดังกล่าว การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามขั้นตอน โดยได้เชิญผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น มาร่วมเจรจา เพื่อให้เข้ามอบตัว แต่มีผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ไม่มอบตัว จำนวน 2 ราย ได้ใช้อาวุธปืนปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่ ประกอบกับผู้ก่อเหตุรุนแรงมีหมายจับ ป.วิอาญา หลายคดี จึงมีความจำเป็นที่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
สำหรับเหตุการณ์ กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาด ยิง นายสมาน สะเอ๊ะ อายุ 54 ปี ราษฎร หมู่ที่ 1 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2561 เหตุเกิดในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา นั้น จากข้อมูลเชิงลึก และแหล่งข่าวในพื้นที่คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว สำหรับรายละเอียดอยู่ระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนต่อไป จึงไม่น่าจะเป็นการตอบโต้จากฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด
สำหรับกรณีที่มักมีข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงว่ารัฐจะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ที่ถูกควบคุมตัว รายละ 1 ล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อบุคคลตามหมายจับที่เคยก่อคดี, ทำร้ายชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนมาเป็นจำนวนมาก และไม่เป็นเงื่อนไขการาเยียวยาแต่อย่างใด
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปัตตานี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2561 เวลา 19.35 น. มีคนร้ายจำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ใช้ระเบิดแสวงเครื่อง แบบไปป์บอมบ์ ขว้างใส่บ้านเรือนราษฎร จำนวน 3 ลูก ระเบิดทำงาน จำนวน 2 ลูก ไม่ทำงาน 1 ลูก และใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านเรือนราษฎร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย คือ นายศักดิ์ศรี ศรีบาล อายุ 49 ปี และนางพร จันตัน อายุ 64 ปี เหตุเกิดขณะที่ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย นั่งคุยกัน ในบ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 2 บ.ชะเมา ต.นาเกตึ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เหตุการณ์นี้มีข่าวสารก่อนหน้านี้ว่า คนร้ายกลุ่มบูคอรี หลำโซะ มีแผนที่จะก่อเหตุในพื้นที่ ต.นาเกตุ ในห้วงเทศกาลฮารีรายอ ที่จะถึงนี้ ทั้ง 3 เหตุการณ์จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
ภาพ/ข่าว มูกะตา หะไร ทีมข่าว@ชายแดนใต้
