“บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ลงใต้ติดตาม 2 คดี คืบหน้าเรือล่มภูเก็ต และปัญหาการค้ามนุษย์ข้ามชาติในพื้นที่ภาคใต้ (ชมคลิป)

0
738

“บิ๊กโจ๊ก”  พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ลงใต้ติดตาม 2 คดี คืบหน้าเรือล่มภูเก็ต และปัญหาการค้ามนุษย์ข้ามชาติในพื้นที่ภาคใต้

วันที่ 13 กค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุเรือท่องเที่ยวล่มที่ จ.ภูเก็ต ทั้งการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในระหว่างลงพื้นที่ จ.สงขลาว่า

ในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไป จ.ภูเก็ตเพื่อประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายจีนรวมทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันทั้งหมดราว 200 ราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ทั้งที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตโดยเฉพาะเงินเยียวยาจากเดิมที่ได้รับจากรัฐบาลรายละ 1 ล้าน โดยจะพูดคุยถึงความเป็นไปได้ว่าจะจ่ายเงินเยียวยาได้เพิ่มเติมอีกหรือไม่โดยเฉพาะในส่วนของบริษัทเจ้าของเรือซึ่งเบื้องต้นได้จ่ายให้แค่รายละ 1 แสน

นอกจากนี้ยังเร่งรัดให้มีการสอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มนอมินีชาวต่างชาติที่มาเปิดบริษัทบังหน้า  รวมทั้งการพิสูจน์หาเหตุที่เรือล่มว่ามาจากความประมาทหรือสภาพของเรือ และการสอบสวนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐหากพบว่าบกพร่อง

จากนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวลงพื้นที่ติดตามปัญหาการค้ามนุษย์ข้ามชาติในพื้นที่ภาคใต้ โดยเดินทางไป ที่สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่ กองกำกับการ3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวลงพื้นที่ติดตามปัญหาการค้ามนุษย์ชาวเมียนมาร์-โรฮิงยา ในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ต้นทางในประเทศเมียนมาร์ไปยังประเทศมาเลเซียโดยผ่านไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายหน้าคนสำคัญที่เป็นชาวเมียนมาร์ได้ทั้งหมดแล้วรวม4 คน ประกอบด้วย นายอาตู นายโม นายนิ และนาย อาว สามารถช่วยเหลือเหยื่อได้ 89 คน และกระทรวงพัฒนาสังคมอยู่ระหว่างการคัดแยก

โดยเฉพาะการปฏิบัติการ7 ครั้งล่าสุดในพื้นที่ 7 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ระนอง ชุมพระ สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส สามารถช่วยเหลือเหยื่อชาวเมียนมาร์และชาวโรฮิงยาได้ทั้งหมด81 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 5 คน และสามารถจบกุมผู้ต้องได้12 ราย รวมทั้งได้ออกหมายจับผู้ต้องหา10 หมายและสามารถจับกุมได้ทั้งหมดแล้วเช่นกัน ยึดรถทัวร์ได้2 คัน รถยนต์กระบะ 3 คันและรถเก๋ง 4 คัน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติทั้งหมดแล้วตั้งแต่ประเทศต้นทางจนถึงปลายทาง โดยในเมียนมาร์มี 5 กลุ่ม กลางทางหรือในไทยที่เป็นที่พักพิง50 กลุ่มและปลายทางในประเทศมาเลเซีย3 กลุ่ม และจะเร่งปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน

และล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ได้จำนวน 8 คนทั้งชายและหญิงที่ถูกนำมาพักพิงไว้ในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อสองวันที่ผ่านมา​

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สงขลา