ยะลา-หน่วยข่าวความมั่นคงอำเภอเบตงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดหลังพบแผนคนร้ายเตรียมก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมกันหลายจุดครั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 22มิ.ย.61 พันตำรวจโทเชษฐ์วิทย์ นีระฮิง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ ตำรวจตระเวนชายแดน 44 ประสานกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่งคงทุกหน่วย เข้าปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลาและพื้นที่รอยต่อ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ย่านเศรษฐกิจ การค้า ชุมชน ร้านอาหาร ปั้มน้ำมัน และสิ่งสาธารณูปโภคอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ประชาชน
หลังหน่วยข่าวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พบแผนคนร้ายเตรียมก่อเหตุพร้อมกันหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ด้วยจักรยานยนต์บอมบ์ เผาสายโทรศัพท์ ระเบิดเสาไฟฟ้า และเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ทำลายเศรษฐกิจ และความสงบสุขในพื้นที่และเป็นการตอบโต้ เจ้าหน้าที่หลังเครือข่ายแนวร่วมได้มอบตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพของกลุ่มขบวนการว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถป้องกันได้
ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติด้วยการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด แบบไม่ประจำที่ ไม่เป็นเวลา ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้สามารถสกัดกั้นความพยายามในการก่อเหตุ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยได้กำชับเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ความเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุร้ายอย่างเคร่งครัดและจัดกำลังพลออกลาดตระเวนเดินเท้าตามเส้นทางท่อลอดต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบล-หมู่บ้าน อย่างใกล้ชิด และปิดพื้นที่เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุอีกด้วย พร้อมกับการตั้งด่านตรวจในเส้นทางเพื่อตรวจสอบยานพาหนะ โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางที่อาจมีการซุกซ่อนระเบิดขนาดเล็กไว้ เนื่องจากมีการจับกุมนายซานูซี ยาแต อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.10 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถยนต์กระบะ และให้การรับสารภาพในเบื้องต้น ว่า เป็นคนทำหน้าที่ขนย้ายวัตถุระเบิดจากพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อไปมอบให้กับบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งที่จะมารอบรับในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ซุกไว้ในกล่องกระดาษทั้ง 2 ใบ รวม 41 ลูก น้ำหนักลูกละประมาณ 500 กรัม ซึ่งอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ภายในกล่องกระดาษเจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจสอบพบของกลาง เป็นวงจรจุดชนวนระเบิดที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องพลาสติกแบบ 4 เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้าง 4 นิ้วคูณ 4 นิ้ว จำนวน 36 กล่อง วงจรจุดชนวนระเบิดที่มีการตั้งเวลาให้ระเบิด จำนวน 1 กล่อง รวมทั้งวิทยุสื่อสารที่ตั้งความถี่ 138.100 MZ จำนวน 2 เครื่อง ที่ใช้ในการจุดชนวนระเบิด และ ไฟฉาย 4 อัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เกรงว่ากลุ่มขบวนการฯอาจมีการลักลอบขนระเบิดชนิดเดียวกันที่ตรวจยึดได้ออกจากพื้นที่ที่ได้ซุกซ่อนไว้ก่อนหน้านี้ไปแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเข้าพื้นที่เป้าหมายเตรียมการก่อเหตุครั้งใหญ่พร้อมกันในห้วงหลัง วันรายอหก หรือ “วันรายอแน” เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ทำลายเศรษฐกิจ และความสงบสุขในพื้นที่
และจากการตรวจสอบพฤติกรรมคนร้ายในเบื้องต้น นายซานูซี ยาแต มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสำคัญ ในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง เช่น เข้าร่วมโจมตีฐาน ร้อย ร.15121 (ฐานพระองค์ดำ) เมื่อ 19 มกราคม 2554, การเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อ 13 มกราคม 2559 และอื่นๆ อีกหลายคดี เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืน และถูกจำขังที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เป็นเวลา 4 ปี พ้นโทษออกมา
เมื่อปี 2558 สำหรับ นายอับดุลอาซิ สามะ ที่หลบหนีไปได้นั้น เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุม พร้อมกับขยายผลไปยังเครือข่าย ที่เกี่ยวข้อง ต่อไป ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักของ นายซานูซีฯ ตรวจพบวัตถุต้องสงสัย เพื่อใช้ในการประกอบระเบิด จำนวน 7 รายการ และตรวจค้นบ้านพักของ นายอับดุลอาซิฯ จากการตรวจสอบ ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สำหรับรถยนต์คันที่ใช้ขนระเบิดเป็นรถของ นายอุษมา ยาแต น้องชายของ นายซานูซีฯ ถูกควบคุมตัวกรณีมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี เจ้าหน้าที่ ร้อย ร.15121 เมื่อ 2554 และศาลตัดสินจำคุก ตลอดชีวิต
ข่าว./เจษฎา สิริโยทัย ภาพ/อิมรอน ดามาอู @ชายแดนใต้อ.เบตง จ.ยะลา
