กอ.รมน. แถลงตรวจยึดระเบิดที่ตากใบ คืบหน้าระเบิดตู้ ATMที่ปัตตานี

0
1141

กอ.รมน .แถลงตรวจยึดระเบิดที่ตากใบ คืบหน้าระเบิดตู้ ATMที่ปัตตานี

เมื่อ 22 มิถุนายน 2561. พันเอก ปราโมทย์  พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กรณีการตรวจยึดวัตถุระเบิดในพื้นที่ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง จำนวน 40 ลูก และอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนหนึ่ง  เมื่อ 21 มิถุนายน 2561 เวลาประมาณ 11.30 นาฬิกา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จำนวน 3 นาย ลาดตระเวนบนทางหลวง หมายเลข 4057 ระหว่างอำเภอสุไหงโก-ลก – อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ฮ้อ อีซูซุ รุ่นดีแม๊ก สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 2788 ปัตตานี   มีพิรุธ เมื่อพบเจ้าหน้าที่ได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจนสามารถควบคุมรถคันดังกล่าวได้พบบุคคลภายในรถ จำนวน 2 คน คบคุมตัวไว้ได้ 1 คน คือ นายซานูซี ยาแต อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1หมู่ 10 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จังหวัดนราธิวาส ส่วนอีก 1 คน              หลบหนีไปได้ ทราบว่าชื่อคือ นายอับดุลอาซิ  สามะ  อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 1 ตำบลบางขุนทอง อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จากการตรวจค้นภายในรถ พบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง และอุปกรณ์ประกอบระเบิด จำนวน 7 รายการ  1. ระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง จำนวน40ลูก 2. วงจรวิทยุสื่อสาร  จำนวน 2กล่อง3. ชุดวงจรตั้งเวลา 5 นาที จำนวน 36กล่อง 4. ชุดวงจรตั้งเวลา 10 นาที จำนวน 1 กล่อง5. ชุดวงจรตั้งเวลา 30 นาที จำนวน 2 กล่อง6. ระเบิดแสวงเครื่องแบบท่อเหล็ก จำนวน 1 ลูก 7. ไฟฉาย จำนวน 4 กระบอก

จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าคนร้ายยังคงพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ทำลายเศรษฐกิจ และความสงบสุขในพื้นที่ ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยรวบรวมวัตถุพยาน สืบสวน สอบสวน เพื่อขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง และจะบังคับใช้กฎหมาย เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่ร่วมขบวนการมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป พร้อมทั้ง ได้ชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และแหล่งข่าวภาคประชาชน ที่ช่วยกันแจ้งเบาะแส จนสามารถนำไปสู่การจับกุม และ ตรวจยึดระเบิด ดังกล่าว  ไว้ได้ก่อนที่จะนำไปก่อเหตุ สามารถป้องกันชีวิต และทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมากจากการตรวจสอบพฤติกรรมคนร้ายในเบื้องต้น นายซานูซี  ยาแต มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสำคัญ ในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง เช่น เข้าร่วมโจมตีฐาน ร้อย ร.15121 (ฐานพระองค์ดำ) เมื่อ 19 มกราคม 2554, การเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อ 13 มกราคม 2559 และอื่นๆ อีกหลายคดี เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืน และถูกจำขังที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เป็นเวลา 4 ปี พ้นโทษออกมา เมื่อปี 2558 สำหรับ นายอับดุลอาซิ สามะ ที่หลบหนีไปได้นั้น เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุม พร้อมกับขายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ต่อไป

ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักของ นายซานูซีฯ ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยเพื่อใช้ในการประกอบระเบิด จำนวน 7 รายการ และตรวจค้นบ้านพักของ นายอับดุลอาซิฯ จากการตรวจสอบยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สำหรับรถยนต์คันที่ใช้ขนระเบิดเป็นรถของ นายอุษมา ยาแต น้องชายของ นายซานูซีฯ  ถูกควบคุมตัวกรณีมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี เจ้าหน้าที่ ร้อย ร.15121 เมื่อ 2554 และศาลตัดสินจำคุก ตลอดชีวิต ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยได้เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติด้วยการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด แบบไม่ประจำที่ ไม่เป็นเวลา ให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถสกัดกั้นความพยายามในการก่อเหตุ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ขณะที่พันเอก ธนาวีร์  สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษา              ความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตามที่คนร้ายได้ลอบวางระเบิดตู้ ATM ของธนาคารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และการแจ้งข่าวจากภาคประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดปัตตานี มีเหตุลอบวางระเบิด จำนวน 10 จุด ผลการปฏิบัติร่วมกันของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย จนถึงปัจจุบัน มีความคืบหน้า กรณีเหตุระเบิดตู้ ATM ในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี 10 จุด ปัจจุบันศาลจังหวัดปัตตานี ได้ออกอนุมัติหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 10 หมาย สามารถติดตามจับกุมผู้กระทำผิดได้ 8 คน ได้แก่ 1) นายมูฮำมัด  แวอุเซ็ง  2) นายซูไฮมี มะแซ  3) นายอาแว หะยีเด็ง  4) นายอับดุลรอนิง  เปาะลี  5) นายอิสดิน สะอิ   6) นายนุริดิน  เจ๊ะอุเซ็ง 7) นายอิสมาแอล  อาแซ  8) นายมะยูโซะ  มะแซ ซึ่งใน 8 คน ได้ให้การยอมรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี 4 คน ส่วนอีก 4 คน ให้การภาคเสธ แต่สารภาพว่าเคยเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงโดยได้ก่อเหตุอื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดปัตตานี ออกหมายจับอีก 4 คน ควบคุมตัวตาม พ.ร.ก. เพิ่ม 1 คน รวมทั้งสิ้นทราบตัวผู้กระทำผิดแล้วจำนวน 14 คน และจับกุมได้แล้ว จำนวน 9 คน ยังหลับหนี  อีก 5 คน

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 เจ้าหน้าตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43  ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนตามคำให้การยอมรับสารภาพ ในสถานที่ก่อเหตุ จำนวน 14 จุด โดยเริ่มต้นตั้งแต่สถานที่วางแผน, สถานที่ฝึกสอนระเบิด, สถานที่รับระเบิด และสถานที่ก่อเหตุวางระเบิด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะใช้ความพยายามอย่างเต็มความสามารถในการดำเนินการด้านกฎหมาย   กับผู้กระทำผิดทุกราย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมวัตถุพยาน,   ภาพจากกล้องวงจรปิด, คำให้การของพยาน และหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป และต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ช่วยกันแจ้งเบาะแส และช่วยกันเฝ้าระวัง เพื่อความปลอดภัยและความสงบสุขของจังหวัดชายแดนภาคใต้

ทีมข่าว@ชายแดนใต้ จ.ยะลา