ชาวไทยมุสลิมร่วมฉลองกันถ้วนหน้า หลังจากที่ประกาศจากสำนักจุฬาราชมนตรี ได้ประกาศว่า มีคนเห็นจันทรเสี้ยวเมื่อคืนนี้ จึงถือเป็นวันขึ้นเดือนใหม่ คือวันอิดิลฟิตรี่ปี ฮิจเราะห์ศักราช 1439 ตรงกับวันศุกร์ ที่ 15 มิย 61
ทุกมัสยิดหลักในปัตตานี เช่นมัสยิดกลาง มัสยิดกรือเซะ มัสยิดบางปู และมัสยิดประจำทุกอำเภอทุกตำบลชาวไทยมุสลิมในจังหวัดปัตตานี ต่างร่วมกันฉลอง วันฮารีรายอ หรือวันอิดิลฟิตรี หลังจากเดือนรอมฎอน ที่ผ่านมา
โดยเริ่มจากในช่วงเช้าตรู่ทุกครอบครัวจะอาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาดผุดผ่อง มีการทำบุญบริจาคข้าวสาร คนละ 1 กันตัง (2.8กก.) และเริ่มให้สลามสวมกอดกันในครอบครัว ขออภัยซึ่งกันและกัน
จากนั้นต่างพาลูกหลานเดินทางมาที่มัสยิดที่อยู่ใกล้ ๆ บ้าน หรือที่บ้านเกิดของตนเอง ในวันนี้ทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ ดีที่สุด เพื่อมาละหมาดรวมกัน และฟังเทศนธรรม ขอพรให้กับผู้สูญเสียในสถานการณ์เหตุความรุนแรงมี่ผ่านมา
ตลอดจนเพื่อทบทวน ความดีความชอบและความผิดพลาดของตนเองในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงแก้ไขตนเองต่อไป และหลังจากเสร็จสิ้นพิธีละหมาดแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายไปพบปะครอบครัวเยี่ยมเยียนญาติแสดงความเคารพกับผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสและพี่น้องของตนเองและไปเยี่ยมสุสานบรรณพบรุษ ผู้ล่วงลับไปแล้ว
รวมทั้งวันนี้เป็นวันรวมญาติ ทุกคนจะกลับภูมิลำเนา ทุก ๆ บ้านจะมีอาหารเบา-หนักจัดเลี้ยง จัดสำรับต่าง ๆ นานา มีอาหารยอดนิยม เช่น ตูปะ(ข้าวเหนียวต้มมัดสามเหลี่ยม) จิ้มแกง ขนมหวาน ทั้งคาวหวานต่างๆ จัดเตรียมไว้เลี้ยงทุกคน
ในวันนี้เสียงสลาม ระดมกันทั่วและ เสียงแห่งการให้อภัยซึ่งกันและกัน บรรยากาศแห่งความสันติสุขเกิดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่ จ.ยะลา ชาวมุสลิมที่นับพันคนร่วมละหมาดตรุษอีฎิดิลฟิตริกันอย่างคึกคัก มีการบรรยายธรรมบริจาคทาน และการให้อภัยซึ่งกันและกัน
โดยที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา บรรยากาศการร่วมละหมาดต้อนรับในวันตรุษอีดิ้ลฟิตรี หรือ วันรายอปอซอ ในพื้นที่ของ จ.ยะลา และมัสยิดต่าง ๆ เป็นไปอย่างคึกคัก มีทั้งชายหญิง และเด็กเล็ก เด็กใหญ่ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ ต่างเดินทางมาร่วมละหมาด และ จับมือสาลาม เพื่อขออภัย (มาอัฟ) ซึ่งกันและกันที่ได้กระทำการที่ละเมิดหรือกระทำผิด ทั้งการเจตนาและไม่ได้เจตนาในรอบปีที่ผ่านมา
สำหรับการร่วมละหมาดในวันตรุษอีดิ้ลฟิตรี มีการบรรยายธรรม โดย ผศ.อับดุลลาตีฟ การี คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจาก มหาวิทยาลัยฟาฎอนี เรื่องชุมชนน่าอยู่สังคมเข้มแข็งสู่ประชาชาติหนึ่งเดียวการประณีประนอม
และการให้มุสลิมได้มีการปฏิบัติในศาสนาด้วยการรู้จักการผ่อนปรน และ ให้มุสลิมได้สำนึกในคุณงามความดีที่พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานสิ่งที่ดีงาม ตลอดจนประทานทรัพย์สิน ชีวิตความเป็นอยู่ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ด้วยการให้ทุกคนร่วมกันสร้างความดี ปฏิบัติดี ตามคำสั่งสอนของศาสดา พระนบีมูฮัมมัด ได้ปฏิบัติตนนำเป็นแบบอย่างในการครองตน
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ผู้นำศาสนาผู้หลักผู้ใหญ่ต่าง ได้ร่วมแจกเงินบริจาคทานให้กับเด็ก ๆ ที่มาร่วมละหมาดในวันวันตรุษอีดิ้ลฟิตรี พร้อมทั้งได้มีการจัดเตรียมอาหารเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมละหมาดในครั้งนี้เช่นกัน
ส่วนที่ จ.นราธิวาส ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ อ.เมืองและอำเภอสุไหงปาดี ร่วมละหมาดฮารีรายออีฎิดิลฟิตรีอย่างคึกคัก แน่นทุกมัสยิด
เริ่ม เวลา 08.00 น. ซึ่งเป็นวันฮารีรายออีฎิดิลฟิตรีเป็นวันเฉลิมฉลองของพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วโลก พร้อมเพรียงกัน ที่มัสยิดกล่างรวมทั้งมัสยิดหอนาฬิกาและมัสยิดอื่น ๆ ประชาชนเนืองแน่นทุกมัสยิดหลังจากที่ต้องถือศีลอดมาตลอด 1 เดือนเต็ม
โดยบรรยากาศที่ สนามหน้าโรงเรียนดารุลรอมะฮ์ ม.7 บ้านสือแด ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั้งชายหญิง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรใหม่สวยสดงดงามตามแบบอย่างของศาสนาอิสลาม เข้าร่วมละหมาดอีดหรือวันฮารีรายออีฎิดิลฟิตรี เพื่อขอประทานอภัยโทษต่ออัลลอฮฺ และเป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว
ทีมข่าว@ชายแดนใต้
