ประชาชน4จังหวัดชายแดนภาคใต้ไทยที่ทำงานในมาเลเซีย-สิงค์โปร์ เริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อร่วมฉลองเทศกาลอีดิลฟิตรี คาดเศรษฐกิจสะพัดหลายร้อยล้านบาท

0
887

ประชาชน4จังหวัดชายแดนภาคใต้แรงงานไทยที่ทำงานในรัฐต่างๆ ของมาเลเซีย-สิงค์โปร์ เริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อร่วมฉลองเทศกาลอีดิลฟิตรี คาดเศรษฐกิจเงินสะพัดหลายร้อยล้านบาท

มาเริ่มที่บรรยากาศในพื้นที่ จ.นราธิวาส ใกล้ถึงเทศกาลฮารีรายออีดิลฟิตรี (รายอปอซอ)ของชาวไทยมุสลิมที่ใกล้จะมาถึงนี้ปรากฏว่าที่ด่านพรมแดนไทย-มาเลเซียอำเภอสุไหงโก-ลก กลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวไทยที่เดินทางไปทำงานในรัฐต่างๆ ของมาเลเซียเริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานีและสงขลากันแล้ว

เพื่อร่วมฉลองเทศกาลวันฮารีรายออีดิลฟิตรี ส่งผลให้การจารจรบริเวณบนสะพานเขตแดนไทย-มาเลเซีย ติดขัดเป็นแถวยาว ขณะที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลกก ก็มีผู้คนจำนวนมากเข้าแถวjopหนังสือเดินทาง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มบุคลากรมาอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบเอกสารและหนังสือเดินทาง เพื่อให้เกิดความเร็ว

นอกจากนี้ตามคิวรถตู้โดยสารรับจ้างและสถานีรถไฟมีผู้มาใช้บริการเพิ่มกว่าปกติ ผู้ประกอบการรถแต่ละสายได้เพิ่มจำนวนรองรับการเดินทางกันอย่างเต็มที่

ส่วนที่จ.ยะลา บรรยากาศของเตรียมการต้อนรับวันฮารีรายอ หรืออิดิลฟิตตรี เช่นเดียวกันซึ่งในคืนวันที่ 14มิถุนายน   จุฬาราชมนตรีได้กำหนดการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนด “วันตรุษอีดิ้ลฟิตรี” หรือ วันฮารีรายอของพี่น้องชาวมุสลิม หลังที่ถือศีลอดตลอด 1 เดือนรอมฎอนที่ผ่านมา

โดยเฉพาะที่ด่านพรมแดนไทย – มาเลเซีย อ.เบตง จ.ยะลา ท่ามกลางฝนตกหนักแรงงานคนไทยที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ขณะนี้เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนากันคึกคักขึ้น โดยชาวมุสลิมจากจังหวัดยะลา ปัตตานี ที่เปิดร้านอาหารต้มยำกุ้ง หรือกลุ่มผู้ใช้แรงงานต่างๆที่เดินทางไปประกอบอาชีพในมาเลเซียและบางส่วนของสิงคโปร์  ได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หลายพันคน เพื่อกลับมาร่วมเฉลิมฉลองและเพื่อเป็นการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวในช่วงเทศกาลฮารีรายอ ที่จะมาถึงนีี

ขณะที่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบประวัติบุคคลเข้า -ออกพรมแดนเพื่อเป็นการป้องกันการแอบแฝงคนร้ายหรือบุคคลที่มีหมายจับเดินทางเข้ามาปะปนมากับประชาชนและนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้เพื่อป้องกันกลุ่มก่อความไม่สงบเข้าก่อเหตุป่วนในช่วงเทศกาลฮารีรายอนี้

โดยบรรยากาศ ตามคิวรถประจำทางต่างๆที่มาจากชายแดน เข้าตัวเมืองเบตง เพื่อต่อรถประจำทาง รถแท็กซี่รถตู้ กลับภูมิลำเนาของตัวเอง  นอกจากนั้น ยังมีการเหมารถบัสจากประเทศมาเลเซีย มาส่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบรรดาผู้ที่กลับมาจากมาเลเซีย ได้นำเงินกลับมาใช้สอยซื้อของ และร่วมเฉลิมฉลอง ในช่วงเทศกาลนี้ทั้ง3จังหวัดนั้นคาดว่ามีการใช้เงินประมาณ กว่า 100 ล้านบาท เกิดการหมุนเวียนเงินในจังหวัดชายแดนภาคใต้คึกคักเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลฮารีรายอนี้

สำหรับวันรายออีดิลฟิตรี(รายอปอซอ)จุฬาราชมนตรีได้กำหนดการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนด เริ่มดูดวงจันทร์ในคืนวันที่14 มิถุนายน 2561 หากเห็นดวงจันทร์ก็จะรายอในวันที่ 15 แต่ถ้าไม่เห็นดวงจันทร์ในคืนวันที่14 นั้น เป็นอันว่ารายออีดิลฟิตรี(รายอปอซอ)ปีนี้ ตรงกับวันที่ 16 มิถุนายน 2561นี

ทีมข่าว@ชายแดนใต้