กลุ่มเกษตรกรเบตง ยุค 4.0 เพาะกล้าพันธ์ทุเรียนมูซังคิงส์ปลอดสารพิษเน้นคุณภาพ ป้อนตลาดใหญ่ต่างประเทศ

0
1950

กลุ่มเกษตรกรเบตง ยุค 4.0 เพราะกล้าพันธ์ทุเรียนมูซังคิงส์ปลอดสารพิษ

บุกสวนศักศรี ทุเรียนเหมาซานหวาง หรือ เหมาซานหว่อง หรือที่เรารู้จักกันมานานในนาม “มูซานคิง” (Musang King) ที่บรรดาชาวมาเลเซีย ต้นตำหรับความฟินของคนรักทุเรียนต้องบอกต่อ ที่ได้รับความนิยมบริโภคสูงสุดในประเทศมาเลเซีย จีน ไต้หวัน ฯลฯ

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่สวนศักดิ์ศรี เลขที่ 113/2 ม.2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา   วันนี้มีโอกาสได้พบและสัมภาษณ์นายศักดิ์ศรี สง่าราศรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปัจจุบันตนมีพื้นที่ปลูกทุเรียนสายพันธ์ เหมาซานหวาง หรือ มูซานคิง จำนวนทั้งหมด 25ไร่ รวมจำนวนต้นทั้งหมด 400 ต้น ทั้งนี้ทุเรียนสายพันธ์ เหมาซานคิง ที่ปลูกอยู่ในสวน มีการใช้สารเคมีน้อยมาก สำหรับสวนทุเรียนสายพันธ์ เหมาซานคิง และพันธุ์อื่นๆของตนเองนั้นเป็นสวนแบบเกษตรอินทรีย์ ผสม ปุ๋ยเคมีโดยใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ โดยเมื่อทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้วก็จะทำการตัดหญ้าตามโค่นต้นทุเรียนและผลไม้อื่นๆ แล้วจึงค่อยใส่ปุ๋ยเคมีและจะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ใส่ จึงกล้าที่จะรับประกันความปลอดภัย และความอร่อย จึงทำให้เกิดแนวความคิดการรวมกลุ่มทำทุเรียนปลอดสารพิษขึ้นเพื่อที่จะยกระดับคุณภาพ และราคาของทุเรียนในพื้นที่ อ.เบตง ให้มีราคาสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งลักษณะเด่นของทุเรียนสายพันธ์ เหมาซานคิง จะมีเอกลักษณ์ประจำสายพันธุ์ชัดเจน คือบริเวณก้นผลจะดูเป็นแฉก 5 แฉก รูปดาวแปลกตามาก จัดเป็นทุเรียนเปลือกบาง เมล็ดเล็กและลีบบาง เนื้อเป็นสีเหลืองเข้ม เนื้อละเอียดเนียน รสชาติหวานมันและหวานแหลม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รับประทานอร่อยมาก เป็นทุเรียนพันธุ์เบา จะออกดอกและติดผลใช้เวลาปลูก 4-5 ปี เท่านั้นในช่วงเดือน สิงหาคม และ กันยายน ทุกปี น้ำหนักผลเฉลี่ยระหว่าง 2-4 กิโลกรัมต่อผล

ปัจจุบันที่สวนศักดิ์ศรี ได้มีการรวมกลุ่มชื่อกลุ่มทุเรียนเบตง ได้มีการให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี

นายศักดิ์ศรี สง่าราศรี เจ้าของสวนศักดิ์ศรี ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกด้วยว่า แรงจูงใจของการรวมกลุ่มทุเรียนเบตง เพื่อเปลี่ยนแปลงในการทำสวนทุเรียน นั้นมีจุดเริ่มต้นจากการให้ความสำคัญกับสุขภาพของเกษตรกรผู้ที่ทำทุเรียนหากใช้สารเคมีก็จะส่งผลต่อร่างกายของ รวมทั้งปัญหาสภาพแวดล้อม ซึ่งการใช้สารเคมีจะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศ โดยจะเน้นใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี ตั้งแต่เริ่มปลูก คือ มีการใช้ปุ๋ยคอกใส่รองก้นหลุมก่อนปลูก มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี การเก็บเกี่ยวผลผลิตนั้นเป็นที่มีคุณภาพมากที่สุด

สำหรับการทำการตลาดนั้นส่วนใหญ่สมาชิกในกลุ่มทุเรียนเบตงจะส่งให้พ่อค้ากลาง และทางพ่อค้ากลางจะส่งต่อไปยังผู้บริโภคที่มาเลเซีย สิงคโปร์อีกทอดหนึ่ง โดยทุเรียนมูซานคิง 80 เหรียญมาเลย์/กก. แต่หากปีไหนมีผลผลิตน้อย ราคาจะพุ่งขึ้นไปที่ 100 เหรียญมาเลย์/กก. แต่ในปีนี้ทางกลุ่มทุเรียนเบตง ได้มีการเพาะพันธ์กล้าทุเรียนมูซานคิง บรรจุกล่องเพื่อจำหน่ายในราคากล้าละ 150 – 250 บาท พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ รวมทั้งการเตรียมทำการตลาดในรูปแบบออนไลน์ในฤดูการเก็บเกี่ยวที่จะมาถึงในปีนี้อีกด้วย

ผู้สนใจที่จะปลูกทุเรียนเหมาซานหวาง หรือ มูซานคิง พันธุ์แท้จากประเทศมาเลเซีย ซึ่งมูซานคิง นับเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าสนใจ และจะเป็นทางเลือกของเกษตรกรได้ในอนาคต

สนใจติดต่อได้ที่ กลุ่มทุเรียนเบตง

1.ไกรวุฒิ เจ้าวิลาส เฟสบุ๊ค”ไกรวุฒิ เจ้าวิลาส”

ไลน์ไอดี : 1973 kraiwut

2.อาคม เฟสบุ๊ค”ร้านปันโซ บ่อน้ำร้อน”โทร 098-871 4889

3.ศักดิ์ศรี สง่าราศรี เฟสบุ๊ค”Saksri Sangarasri“  โทร-098-016 2806

4.ธรรมนูญ ชาญวิรวงค์ เฟสบุ๊ค “ส้มโชกุน เบตง จิตต์มาลี”  โทร 081-388-099

 

5.ไพบูรณ์ พิริยานันท์ เฟสบุ๊ค “paiboon piriyanan” โทร 092-792-8923

บัญชีธนาคารสำหรับโอนเงิน   บัญชีชื่อ อาคม ศรีสง่าพงศ์    เลขที่บัญชี 017-8-65527-2   ธ.กสิกรไทย สาขาเบตง

ข่าว…เจษฎา สิริโยทัย ภาพ…อิมรอน ดามาอูอ.เบตง จ.ยะลา ทีมข่าว@ชายแดนใต้