ประเด็นร้อนโครงการพาคนกลับบ้านที่สุคิริน!!! ล่าสุด 3 หมู่บ้านเฮ แม่ทัพ 4 ยกเลิกพาผู้หลงผิดเข้าหมู่บ้านแล้ว

0
537

แม่ทัพภาคที่ 4 ชี้แจงโครงการพาคนกลับบ้านกับชาวบ้านลีนานนท์อำเภอสุคิริน สรุปยกเลิกพาผู้หลงผิดเข้าหมู่บ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่โรงทานวัดลีนานนท์ บ้านลีนานนท์ หมู่ 6 ตำบลสุคิรินอำเภอสุคิรินจังหวัดนราธิวาส พลโทปิยวัฒน์นาควานิชแม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางพบชาวบ้านบ้านลีนานนท์บ้านจุฬาภรณ์12 บ้านรักธรรม โดยมีชาวบ้านไทยพุทธ มุสลิม จาก3 หมู่บ้าน กว่า1,000 คน รอให้การต้อนรับ สำหรับบรรยากาศภายในเวทีเสวนาหาข้อยุติสำหรับโครงการพาคนกลับบ้านที่ทางกองทัพภาคที่ 4 จะพาผู้หลงผิด 105 คนเข้ามาอยู่ในพื้นที่บ้านจุฬาภรณ์12 วันนี้ชาวบ้านกว่า 1,000 คน ได้มีการรวมตัวรับฟังและพูดคุยกับท่านแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อหาข้อสรุปหลังจากพูดคุยยาวนานกว่า 2 ชั่วโมงได้ข้อสรุปว่าท่านแม่ทัพภาคที่ 4 รับปากกับชาวบ้านว่าจะไม่มีการนำผู้หลงผิดในโครงการพาคนกลับบ้านเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน

นอกจากนี้ พลโท ปิยวัฒน์แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า สำหรับโครงการที่จะพาผู้หลงผิดเข้ามา ในหมู่บ้านนั้นเป็นเพียงแค่ความคิดเพียงแต่ว่าที่ชาวบ้านมารวมตัวพูดคุยกันจากกระแสหลายกระแสที่ส่งไปในโลกโซเชียลส่งไปในไลน์ ทำให้ชาวบ้านไม่เข้าใจซึ่งชาวบ้านไม่เข้าใจอยู่แบบนี้เราก็ต้องมาพูดคุย กับชาวบ้านคุยกันก็ชาวบ้านเข้าใจแล้วทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างแม่ทัพได้เรียนและว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนไม่ว่าจะเป็นทหารตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทุกคนมีหน้าที่ดูแลประชาชนดูแลชาวบ้านที่เราอยู่มาทุกวันนี้คือมีหน้าที่รับภาษีของประชาชนก็ต้องดูแลประชาชน สิ่งใดที่ประชาชนชาวบ้านไม่ชอบไม่ถูกใจไม่ยุติธรรม เราก็ไม่ทำอันนี้เราก็คุยกับชาวบ้านเรียบร้อยแล้วว่า ซึ่งชาวบ้านไม่มีความต้องการไม่มีความประสงค์ทางกองทัพภาคที่ 4 ก็ไม่ทำ ทางกองทัพก็จะไปดูที่อื่นว่าจะเป็นยังไงถ้าที่อื่นเขาไม่ยอม เราก็ไม่ยอมเราก็จบไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุยกับชาวบ้านวันนี้ก็ได้ข้อสรุปข้อยุติหมดแล้วถือว่าเราก็จะไม่มีพาคนกลับบ้านมาที่นี่ที่บ้านลีนานนท์ก็จะอยู่เหมือนเดิม ทุกคนก็จะใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเดิมเจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าที่ตนเองต่อไปเหมือนเดิมเหมือนเดิมก็คือปฏิบัติตามหน้าที่ที่ปัจจุบันกำลังทำอยู่

นายแผ่นดินสยามฆ์สวนสุวรรณ แกนนำชาวบ้านบ้านลีนานนท์ กล่าวว่า  เมื่อก่อน ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อก่อนมีเพียงแค่ 500 คน เมื่อก่อนผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ชาวบ้านยอมรับเพราะว่า ตอนที่เขามอบตัว เปิดตาชาวบ้านไม่เคยประท้วงไม่เคยต่อต้าน แม้แต่นิดเดียวเพราะว่า ตอนเขาอยู่ในป่า กลุ่มคอมมิวนิสต์มาลายาดูแลปกป้องชาวบ้าน ก็เลยอยู่กันเหมือนพี่เหมือนน้องตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันแต่ว่า ตอนนี้ถ้ามีผู้หลงผิดเข้ามาอยู่เหมือนมีคนนอกมันจะทำให้แตกความสามัคคี จะเกิดปัญหาอย่างรุนแรงสายน้ำต้นน้ำ จะเสียหายหมด แต่ว่าหลักหลักก็คือ ประชาชนในพื้นที่กลัวหวาดระแวง นายแผ่นดินสยามยังกล่าวอีกว่า  แม่ทัพภาคที่ 4 ให้คำมั่นสัญญาแบบนี้ชาวบ้านก็โล่งใจเพราะว่า ตอนแม่ทัพให้สัมภาษณ์ กับสื่อเราไม่สบายใจ ชาวบ้านในพื้นที่ต่างไม่สบายใจ เพราะแม่ทำบอกว่า คนที่ไม่เห็นด้วย มีมีเพียงแค่ 3 4 คน ชาวบ้านก็เลยคิดว่าแม่ทัพกำลังให้สัมภาษณ์ผิดบิดเบือน แต่ตอนนี้หลังจากมีการพูดคุยกับท่านแม่ทัพและท่านแม่ทัพก็ได้มาพูดคุยด้วยนั้นสบายใจขึ้น แม่ทัพให้สัญญา ให้สัญญาว่าหากชาวบ้านไม่เอาแม่ทัพก็ไม่ไม่ทำต่อ เพราะนี่คือคำมั่นสัญญา ที่แม่ทัพให้ไว้กับชาวบ้าน

นอกจากนี้ นายสยามฆ์ยังกล่าวอีกว่าเมืองสุคิรินตอนนี้ เป็นเมืองที่ธรรมชาติสมบูรณ์มากถ้าเป็นช่วงเช้าขี่รถจักรยานยนต์ก็จะเจอสายหมอกเหมือนขับรถผ่านทะเลหมอก แม่น้ำลำคลองสมบูรณ์ถ้าหากว่า เอางบประมาณที่จะสนับสนุนผู้หลงผิดในโครงการพาคนกลับบ้านนั้นเอามาสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวการท่องเที่ยวในพื้นที่ มาพัฒนาด้านการท่องเที่ยวดีกว่าและเหมาะสมกว่า จะได้ช่วยชาวบ้าน เพราะตอนนี้ราคายางก็ตกต่ำเลยอยากจะให้ ประชาชนในประเทศและต่างประเทศ มาเที่ยวสุคิริน แหล่งท่องเที่ยวมากมันจะเป็นล่องแก่ง ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แม้นว่าอากาศร้อน แต่ก็มีธรรมชาติที่รองรับไม่ว่าจะเป็นล่องแก่งที่ภูเขาทองจุฬาภรณ์ 12 ก็มีล่องแก่งลีนานนท์ก็มีไม้ดอกเมืองหนาวมีธรรมชาติที่สวยงามรองรับนักท่องเที่ยวเพราะพื้นที่สุคิรินยังเป็นพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ อยากให้ภาครัฐให้ความสำคัญเรื่องการท่องเที่ยว เนื่องจากชาวบ้านตอนนี้ ขาดรายได้จากการเกษตรเนื่องจากราคายางที่ตกต่ำ ความหวังอย่างเดียวก็คือการท่องเที่ยวในพื้นที่อยากให้รัฐสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้มากขึ้นกว่านี้ควรจะช่วย

ด้านชาวบ้าน นางนูรีบินดอเลาะ อายุ 27 ปีชาวบ้านบ้านจุฬาภรณ์ 12 เปิดเผยว่าขอบคุณท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ไม่ได้เอาโครงการพาคนกลับบ้านนี้มาไว้ในหมู่บ้านเพราะว่าตอนนี้หมู่บ้านของเรา เดือดร้อนมากพออยู่แล้ว เด็กๆวัยรุ่น ก็หลงผิดมากพอแล้วเลยอยากขอบคุณท่านแม่ทัพมากๆ ที่ไม่ให้โครงการนี้มาอยู่ในหมู่บ้านของเรา

นอกจากนี้นางนูรียังกล่าวอีกว่า อยากให้หน่วยงานภาครัฐมาสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยวพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ให้มีแหล่งท่องเที่ยวที่ดี ให้ดีกว่านี้เพราะว่าตอนนี้ก็มีเพียงแต่ว่ายังไม่ดีพอบางจุดยังสร้างไม่เสร็จ หากเป็นไปได้อยากให้มีงบประมาณมาลงพัฒนาหมู่บ้านพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว อยากให้หมู่บ้านสุคิรินเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพราะว่าอยากให้หมู่บ้านเจริญอยากให้อำเภอสุคิรินเจริญ อยากให้คนในหมู่บ้านมีรายได้มากขึ้น หากมีแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้นหรือเปิดใหม่เมื่อไหร่อยากให้ทุกคนมาช่วยกันเที่ยวสุคิรินกันให้มากๆ

ภาพ/ข่าว แวดาโอะ หะไร บก.@ชายแดนใต้ นราธิวาส