รายงานพิเศษ โดย แบเย็ง ผู้ชาย 4 ฤดู
ลำดับเหตการณ์ บนหนทางหลังเสือของดร. มาฮาเดร์ มูฮำหมัด กับพรรคอัมโน ปี คศ 1987 เกิดการท้าชิงตำแหน่งประธานพรรคอัมโนโดยนักการเมืองอาวุโสที่ชื่อ ตึงกูราซาลี ฮัมซาห์ ดร.มาฮาเดร์ใช้วิชา ชั้นเชิงเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองทุกรูปแบบจนสามารถทำให้คู่แข่งแพ้เขาได้ มีการต่อสู้กันในศาลจนพรรคอัมโนถูกสั่งยุบ แล้วก็มีการแย่งกันจดทะเบียนกันใหม่ มาฮาเดร์ ผู้ถือไพ่เหนือกว่า ได้จดทะเบียนพรรคอัมโน(ไหม่ขึ้นมา) ตึงกูราซาลีกับพรรคพวกจึงแยกตั้งพรรค s 46 ในปี คศ 1988
การเลือกตั้งทั่วไปในปี คศ1990 พรรคS46 จับมือกับพรรคพาสและยึดกลันตันได้สำเร็จ
ในปี คศ 1998 มาฮาเดร์ขัดแย้งกับอันวาร์และปลดอันวาร์ออกจากตำแหน่งรองนายก และจับเข้าคุกจนเกิดพรรคไหม่คือ พรรค PKR ที่นำโดยอันวาร์ อิบรอฮิม
ในช่วงปลายของมาฮาเดร์เป็นประธานพรรคอัมโน รัฐตรังกานูหลุดไปอยู่ในมือของพรรคพาส มาฮาเดร์ ลาออกจากประธานพรรคโดยผู้ที่รับตำแหน่งต่อมาคืออับดุลเลาะห์ บาดาวี
การเลือกตั้งครั้งต่อมา บาดาวียึดตรังกานูคืนได้จากพาส แต่ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี คศ 2008 บาดาวีตกม้าตายเพราะ รัฐเปรัก สลังงอ กือดาห์ ปีนัง แพ้ให้แก่ฝ่ายค้าน จนเกิดการเขย่าบัลบังค์ของบาดาวีโดยการร่วมมือกันกดดันอย่างหนักของ มาฮาเดร์กับนายิบ จนในที่สุดอับดุลเลาะห์ บาดาวี ต้องยอมลงจากบัลลังคฺ์ ลาออกจากผุ้นำส่งมอบให้นายิบ
และนายิบใช้วิชามารดูดรัฐเปรักกลับคืนมาโดยไม่ต้องมีการเลือกตั้งไหม่ และในการเลือกตั้งเมื่อปี 2013 นายิบสามารถยึดคืนรัฐกือดาห์หรือเคด้ากลับคืนมา หลังจากนั้นนายิบก็บริหารประเทศมาเลเซีย ทิศทางเศรษฐกิจ ย่ำแย่มาโดยตลอด โดยเฉพาะค่าเงินริงกิต ตก ลดลง อย่างหนักมากที่สุดในประวัติการณ์การเงินในรอบ หลายสิบปี แบบที่ทราบๆกันจนในที่สุดต้องเกิดการงัดข้อกับ มาฮาเดร์
จนในที่สุดมาฮาเดร์ต้องมาตั้งพรรคใหม่เพื่อล้มนายิบและทำได้สำเร็จในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดนี้ มาฮาเดร์สร้างพรรคอัมโนไหม่มากับมือ แล้วก็เผาพรรคนี้ เอาชนะพรรคการเมืองที่ตัวเองเติบโตมาด้วยมือของตัวเอง
แถลงการณ์ของดร.มาฮาเดร์ มูฮำหมัด พอสรุปได้ดังนี้
โพสต์โดย Nik Rakib Nik Hassan II เมื่อ 9 พฤษภาคม 2018
