ขู่วางระเบิดสนามบินหาดใหญ่ จนท.ควานหาจับตัวได้ถึงกับซีดเจอข้อหาหนัก อ้างป่วยประสาท (ชมคลิป)

ขู่วางระเบิดสนามบินหาดใหญ่ จนท.ควานหาจับตัวได้ ถึงกับซีดเจอข้อหาหนัก อ้างป่วยประสาท

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลาจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโทรศัพท์ไปขู่วางระเบิดสนามบินหาดใหญ่เมื่อวันที่  6 พฤษภาคมที่ผ่านมาโดยพูดซ้ำ 2 ครั้งว่า “ระวังระเบิดระวังระเบิด” แต่หลังจากเจ้าหน้าที่สนามบินตรวจสอบก็ไม่พบความผิดปกติและได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหอยโข่ง และทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้สั่งการให้เร่งติดตามจับกุมดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง สารภาพแค่โทรศัพท์ไปล้อเล่นไม่คิดว่าจะมีความผิดและมีอาการป่วยทางประสาทมา 7 ปีแต่ก็ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหาหาหนัก โทษสูงสุดจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 แสนบาทถึง 6 แสนบาท

ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา จับกุม นายสุภาพ ถนอมพล อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโทรศัพท์ไปขู่วางระเบิดสนามบินหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยตามไปจับกุมได้ที่บ้านพักเลขที่ 43 หมู่4 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จ.สงขลา และควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา

สำหรับเหตุขู่วางระเบิดสนามบินหาดใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ 14.50 น.วันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีชายลึกลับโทรศัพท์ไปยังสนามบินหาดใหญ่และพูดย้ำ 2 ครั้งว่า “ระวังระเบิด ระวังระเบิด” และวางสายไป  สร้างความปั่นป่วนไปชั่วขณะเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัย แต่หลังจากเจ้าหน้าที่สนามบินหาดใหญ่ได้ตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกสนามบินก็ไม่พบสิ่งผิดปกติและเชื่อว่าเป็นเพียงการข่มขู่เท่านั้น จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหอยโข่ง

ซึ่งเรื่องนี้ทาง พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจ.สสงขลา  เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่โทรศัพท์มาสร้างความปั่นป่วนเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและสร้างความเสียหายให้กับสนามบินรวมทั้งสายการบินต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ได้ตามแกะรอยจากเบอร์โทรศัพท์มือถือที่โทรเข้ามาก็ทราบว่าเป็นเบอร์ของ นายสุภาพ จึงได้ขออนุมัติศาล จ.สงขลาออกหมายจับและตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักที่ จ.นครศรีธรรมราชได้วันนี้ และจากการสอบสวน นายสุภาพ ยอมรับสารภาพและบอกว่าแค่โทรศัพท์ไปล้อเล่นเท่านั้นไม่มีเจตนาที่จะขู่วางระเบิดจริงและไม่คิดว่าจะมีความผิด และมีอาการป่วยทางประสาทมา 7 ปี

และแม้จะเป็นเพียงการโทรศัพท์ขู่เล่น แต่ก็ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.คลองหอยโข่ง พื้นที่เกิดเหตุ และแจ้งดำเนินคดีในข้อหาหนักตามมาตรา 22 ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสาร ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี  หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 แสนบาทถึง 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สงขลา