ผู้ว่าสุราษฎร์ฯ สั่งเอาผิดคนขับเรือตรวจพบฉี่ม่วง และเปลี่ยนผู้บริหารชมรม หลังทำเรือชนกัน นทท.เจ็บ

ผู้ว่าสุราษฎร์ฯ สั่งเอาผิดคนขับเรือตรวจพบฉี่ม่วง และเปลี่ยนผู้บริหารชมรม หลังทำเรือชนกัน นทท.เจ็บ

จากกรณีมีเหตุเรือหางยาวซึ่งวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา ชนกันจำนวน 2 ลำ ชื่อเรือ จุฬาลักษณ์ ชนกับเรือพรหมทองใหญ่ 2 ขณะอีกลำกำลังวิ่งเข้าฝั่งและอีกลำวิ่งออกจากท่าเทียบเรือห่างประมาณ 500 เมตร ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาลบ้านตาขุน 2 ราย ส่วนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นาย จำนงค์ สวัสดิ์วงศ์ รักษาการ หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดอุบัติเรือโดยสารนักท่องเที่ยว 2 ลำ ชนกันภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา อยู่ห่างจากฝั่งท่าเรือ 500 เมตร  ทำให้ น.ส.ศิรินุช แสงแก้ว อายุ 38 ปี 18 หมู่ 8 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และน.ส.คนึงณัฐ คินธร อายุ 19 ปี 41 หมู่ 4 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ผู้โดยสาร จำนวน 2 คน ต้องรักษาตัว อยู่ที่ โรงพยาบาลบ้านตาขุน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อีก 11 คน รวม 13 คน

ด้านนายวิชวุทย์   จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า  ในอนาคตทางหน่วยงานรับผิดชอบจะดำเนินการปรับปรุงท่าเทียบเรือใหม่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ซี่งมองว่าระยะทางเพียง 500 เมตรเรือทั้งสองลำชนกันได้อย่างไร ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะของคนขับเรือพบว่าปัสสาวะมีสีม่วงจำนวน 1 ราย ซึ่งจะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด

ซึ่งทำให้เสียชื่อจังหวัดสุราษฎร์ธานีและประเทศไทย ส่วนชมรมผู้ประกอบการเดินเรือในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภาหากเปลี่ยนประธานชมรมได้ก็เปลี่ยนเลยให้เอาคนที่มีศักยภาพ  เอาคนที่มีความคิดอ่านหน่อย เพราะคนปัจจุบันปล่อยให้เกิดเหตุซ้ำซาก เรือ 200 กว่าลำเอาออกไปเพียง 4 ลำจะเป็นอะไรไป หากเป็นไปได้ให้รื้อระบบบริหารจัดการของชมรมเรือทั้งหมดไม่อย่างนั้นไม่จบ หากใครทีความสามาถพอตนพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สุราษฎร์ธานี