สหกรณ์นราธิวาส บันทึกข้อตกลงร่วมมือ MOU ขับเคลื่อนการผลิตปาล์มน้ำมัน เข้าสู่มาตรฐาน RSPO “การตลาดนำการผลิต”พลังประชารัฐพลังประชารัฐ

0
512

สหกรณ์นราธิวาส  บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU ขับเคลื่อนการผลิตปาล์มน้ำมัน เข้าสู่มาตรฐาน RSPO ตลาดโซ่อุปทานปาล์มน้ำมันและขับเคลื่อนการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ภายใต้นโยบาย “การตลาด นำการผลิต” แนวทางพลังประชารัฐ

ณ ห้องประชุมโรงแรงอิมพีเรียล อ.เมืองนราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU เพื่อขับเคลื่อนการผลิตปาล์มน้ำมันเข้าสู่มาตรฐาน RSPO ตลาดโซ่อุปทานปาล์มน้ำมัน และขับเคลื่อนการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ภายใต้นโยบาย “การตลาด นำการผลิต” แนวทางพลังประชารัฐ โดยมี นายจำนัน เหมือนดำ ผู้แทนพิเศษรัฐบาล (ครม.ส่วนหน้า) ตัวแทน ศอ.บต.ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่นราธิวาส สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สถาบันการเงิน (ธนาคาร ธกส.) ธุรกิจภาคเอกชน บริษัท มรกตอินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเสริมสุข จำกัด สถาบันเกษตรกรสหกรณ์นิคมบาเจาะ จำกัด สหกรณ์ปีเหล็ง จำกัด สหกรณ์ผู้ปลูกปาล์มน้ำมันนราธิวาส จำกัด กลุ่มลานเทปาล์ม จ.นราธิวาส รวม จำนวน 250 คน เข้าร่วมงาน

นายนอร์ดีน เจะแล สหกรณ์ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า กิจกรรมในวันนี้ จะทำให้ปาล์มน้ำมันในพื้นที่นราธิวาส จำนวน 32,500 ไร่ เดินเข้าสู่มาตรฐานสินค้าเกษตรในระดับสากล คือ มาตรฐาน RSPO ของประชาคมยุโรป และระยะต่อไปจะเพิ่มการขับเคลื่อนให้ครบทั้งจังหวัดที่มีปาล์มอยู่ ประมาณ 70,000 ไร่ และนอกจากนี้ ตามระบบเกษตรแปลงใหญ่ที่ใช้ “ตลาดนำ การผลิต” โดยสหกรณ์เป็นผู้จัดการแปลงยังสามารถลดต้นทุนการผลิตแก่เกษตรกรผ่านการรวมกันจัดหาปุ๋ย การเข้าถึงแหล่งทุนที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งสามารถลดต้นทุนให้เกษตรกรในปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์

โดยจากการผลัดดันให้เกษตรกรใช้องค์ความรู้ทางวิชาการในการจัดการสวนปาล์มก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตต่อไปไม่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ และชุมชนสหกรณ์ปาล์มน้ำมันชายแดนใต้ จำกัด ยังสามารถรวบรวมผลผลิตมาแปรรูปวันละ ประมาณ 300 ตันทลายหรือปีละ 90,000 ตันทลาย มาแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นน้ำมัน CPO สร้างรายได้เพิ่มแก่เกษตรกรได้อีกกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ทำให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หรือต่อครัวเรือนมีรายได้เพิ่มจากเดิมไม่ต่ำกว่าปีละ 30,000 บาท หรือเกษตรกรในพื้นที่มีรายได้จากอาชีพทำสวนปาล์มเฉลี่ยครัวเรือนละ 350,000 บาท ต่อปี

สหกรณ์ จ.นราธิวาส ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า การตัดพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ MOU การส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ของปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นการทำงานในเชิงบูรณาการในทุกภาคส่วนเพื่อช่วยผลัดดันและสร้างความมั่นใจให้กับชาวเกษตรกรในการพัฒนาพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในเขตพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของสำนักสหกรณ์จังหวัดนราธิวาสที่ต้องพัฒนาเกษตรกร โดยแนวทางหนึ่งที่ผลัดดันคือ การกระเพื่องเกษตรแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันของเกษตรกรในพื้นที่เป็นหลัก โดยในวันนี้ได้เชิญกลุ่มสหกรณ์กลุ่มปาล์มน้ำมันในจังหวัดนราธิวาส รวม 8 สหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์เหล่านี้มีพื้นฐานความเข้มแข็งในการบริการให้กับสมาชิกอยู่แล้วในระดับหนึ่ง แต่ยังจะต้องกลับไปพัฒนากระบวนการผลิตปาล์มน้ำมันในระดับฟาร์มหรือไร่โดยการนำมาตรฐานระดับสากล RSPO ซึ่งจะสามารถยกระดับราคาปาล์มน้ำมันของสมาชิกได้ และยังเป็นการพัฒนาสหกรณ์และรายได้ของสมาชิกนั้นเอง

ด้านนายมะรอพา ปิยยะปิ รองประธานนิคมสหกรณ์ บาเจาะ จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่สมาชิกสหกรณ์ได้รับในวันนี้คือความรู้ด้านวิชาการที่สมาชิกแต่ละคนต้องนำไปใช้ประกอบกับการพัฒนาในอาชีพปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพของปาล์มน้ำมันมีคุณภาพมาตรฐานที่ดี รวมทั้งการปรับปรุงสภาพสวนให้เข้ากับมาตรฐานสากล RSPO และจะได้ขายผลผลิตที่มีราคาสูงขึ้น และอยากจะขอให้ทางการช่วยในเรื่องของพัฒนาสวนปาล์มรวมถึงเรื่องปุ๋ยหรือการดูแลสวนปาล์ม เพื่อให้สมาชิกสามารถยกระดับให้เข้ากับมาตรฐานสากล RSPO ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน.

ภาพ/ข่าว แวดาโอะ หะไร บก.@ชายแดนใต้ จ.นราธิวาส