พบซากวาฬ ยาวกว่า 6 เมตร ลอยตายเกยตื้น

0
648

พบซากวาฬ ยาวกว่า 6 เมตร ลอยตายเกยตื้น พบมีรอยแผลถลอกตามลำตัว เป็นตัวที่ 2 ที่พบในท้องทะเลตรัง เร่งนำซากตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตาย

นายศิลปะชัย เรือนสูงอำเภอปะเหลียน จ.ตรัง ได้รับรายงานจาก ผู้นำท้องที่ว่า ได้รับแจ้งจากนาย ปราโมทย์ มีลือ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.2 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง อาชีพทำการประมง ซึ่งเป็นเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล พบซากวาฬซากไม่ทราบชนิด ลอยน้ำเกยตื้นบริเวณริมชายฝั่งทะเล พื้นที่ ม.2 บ้านแหลม ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จึงได้แจ้งประสานประมงจังหวัดตรัง ,สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 33 และ จนท.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (สอท.สบทช.) รุดมาตรวจสอบ พบซากปลาวาฬสภาพส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ รอตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด

จากการตรวจสอบเบื้องต้น สอท.สบทช.10 (ตรัง) ระบุว่าพบซากวาฬลอยตายอยู่บริเวณกลางทะเล ห่างจากท่าเทียบเรือบ้านแหลม ต.เกาะสุกร ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นได้นำซากวาฬมาที่ชายหาดบ้านแหลม เบื้องต้นพบว่าเป็นวาฬไม่ทราบชนิด ขนาดความยาว 6.4 เมตร วัดรอบตัว 3.2 เมตร น้ำหนักประมาณ 1.5 ตัน สภาพซากเน่า มีรอยบาดแผลที่สันหลังประมาณ 30 ซม. คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 4-5 วัน สำหรับรายละเอียด รอ ผู้เชี่ยวชาญ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรธรรมชาติ เข้าตรวจสอบ อีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ซากวาฬดังกล่าวเป็นตัวที่ 2 ที่พบตายในท้องทะเลตรัง ฝั่งอันดามัน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อประมาณช่วงเดือน ส.ค.ปี 60 พบซากวาฬสภาพเน่าไม่เหลือเค้าเดิม ถูกคลื่นซัดมาติดชายฝั่ง อ.หาดสำราญ เขตรอยต่อ ต.เกาะสุกร สำหับวาฬตัวล่าสุดที่พบในวันนี้คาดว่าถูกคลื่นซัดมาจากเกาะเหลาเหลียง เจตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ซึ่งเป็นทะเลลึก และยังมีความอุดมสมบูรณ์ที่เป็นแหล่งอาหารของวาฬ ในการล่าฝูงปลาหากิน.

ล่าสุด ผลการชันสูตรพบสภาพซากซากวาฬบรูด้า มีรอยบาดแผลภายนอก เป็นรอยถลอกและมีแผลที่ผิวหนังข้างลำตัวด้านซ้าย ภายในกระเพาะอาหารมีอาหารที่ย่อยแล้วส่วนของลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ไม่พบอาหารอยู่ อวัยวะภายในส่วนอื่นๆมีสภาพเน่าและไม่พบรอยโรค สาเหตุการตายสันนิษฐานว่าวาฬ บรูด้าเสียชีวิตด้วยสาเหตุการตายแบบเฉียบพลัน ไม่พบรอยโรค ซึ่งคาดว่าเกิดจากการได้รับอุบัติเหตุในทะเลเนื่องจากการพบร่องรอยบาดแผลภายนอก ร่วมกับเป็นวาฬวัยเด็กซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่กับแม่จึงมีโอกาสที่พลัดหลงจากแม่จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายจากภัยคุกคามอื่นได้ง่าย.

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.ตรัง