ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์มภาคใต้ยื่นหนังสือผ่าน ผจว.สุราษฎร์ฯ กระตุ้นรัฐบาล ช่วยชาวสวนหลังราคาตกต่ำไม่ได้ตามราคาประกาศของรัฐบาล ที่ระบุ 18 เปอร์เซ็นได้ราคา 3.80 บาท แต่ความเป็นจริงชาวสวนขายได้เพียง 2:50-2:60 บาทเท่านั้นส่งผลให้เกิดความเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าศาลกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำจากจังหวัดสุราษฎร์ฯ จ.ชุมพร จ.ตรัง จ.สตูล จ.นครศรีฯ และ จ.ปทุมธานี จำนวนกว่า 150 คน รวมตัวที่หน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ฯ เพื่อเข้ายื่นหนังสือ ขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ฯ ถึงรัฐบาลให้ช่วยแก้ไขปัญหาราคาที่ตกต่ำอยู่ที่ 2:50-2:60 บาท มาเป็นเวลารวมเดือนแล้ว และมีแนวโน้มอาจจะต่ำลง จึงต้องออกมาขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล .ให้เข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
นายสมมาตร อินทรมณี นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ฯ กล่าวว่า ตามประกาศของรัฐบาลที่ประกาศให้น้ำปาล์ม 18 เปอร์เซ็น มีราคารับซื้อที่ 3:80 บาทต่อกิโลกรัม แต่ปัจจุบันชาวสวนกลับได้เพียง 2:50 บาท ต่อกิโลกรัมเท่านั้น ทั้งที่เปอร์เซ็นน้ำมันเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 18 เปอร์เซ็น เกษตรกรจะต้องขายปาล์มดิบได้ไม่น้อยกว่า 3.20 บาท จึงอยากให้รัฐเข้ามาให้การช่วยเหลือ ซึ่งทางตัวแทนเกษตรกรจะให้รัฐบาลนำไปพิจาณาภายใน 1 เดือนแล้วจะกลับมาทวงถามอีกครั้งหนึ่ง
เช่นเดียวกับนายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ระบุว่าที่ปทุมธานีขายได้ 3:80 บาทต่อกิโลกรัม แต่ทำไมที่สุราษฎร์ฯขายได้ไม่ถึง 3 บาท และเมื่อมีกระแสออกมาเรียกร้องปรากฎว่าราคาขยับขึ้นมา 20 สตางค์ จึงมองว่าไม่เป็นธรรมต่อเกษตรกร
ทางด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ฯ ที่ได้ลงมารับหนังสือจากเกษตรกรด้วยตัวเอง พร้อมระบุว่าที่ผ่านมาก็ได้มีการตรวจสอบและขอความร่วมมือผู้ประกอบการดำเนินการส่งออกน้ำมันปาล์มให้มากที่สุดเพื่อลดสต็อกน้ำมันเพื่อกระตุ้นราคา ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายปีได้มีการส่งออกน้ำมันปาล์มไปยังต่างประเทศแล้วจำนวน 2.2 แสนตันเพื่อระบายน้ำมันออกจากสต๊อก แต่น้ำมันในสต๊อกก็ยังอยู่ที่ 4.4 แสนตัน จึงอาจจะเป้นลทำให้ราคาน้ำมันปาล์มภายในประเทศตกต่ำอยู่ในขณะนี้
แต่ทั้งนี้ในช่วงนี้ปาล์มให้ผลผลิตมาก ประกอบกับมีหลายพื้นที่รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง จึงทำให้ราคาตกได้ ทั้งนี้จะได้นำเรื่องส่งผ่านถึงรัฐบาลพร้อมประชุมคณะทำงานในระดับจังหวัดเพื่อหาแนวทางเร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สุราษฎร์ธานี
