ค่าตัดเล็บ มหาโหด 3,500 บาท นักท่องเที่ยวสวีเดนโวย มาเฟียชายหาดสมุย มาครั้งแรกเจอเสียความรู้สึก

0
2171

ค่าตัดเล็บ มหาโหด 3,500 บาท นักท่องเที่ยวสวีเดนโวย มาเฟียชายหาดสมุย มาครั้งแรกเจอเสียความรู้สึก

จากกรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง บนเกาะสมุย ได้โพส์ต ลงในเพจรวมพลคนสมุย ถึงพฤติกรรม ของคนกลุ่มหนึ่งที่เดินเร่ทำเล็บมือเล็บเท้า ให้กับนักท่องเที่ยว แลัวเกิดคิดค่าบริการแบบมหาโหด 3,500 บาท ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ชายหาดบ้านละไม ที่เกิดเหตุ พบกลุ่มหญิงที่เดินเร่ตัดเล็บแต่คนละกลุ่มกับที่ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จากการพูดคุยผู้สื่อข่าวพบพิรุธหลายอย่าง จากหญิงที่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ขณะที่สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเต้นผาง

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า จากกรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง บนเกาะสมุย ได้โพส์ต ลงในเพจรวมพลคนสมุย ถึงพฤติกรรม ของคนกลุ่มหนึ่งที่เดินเร่ทำเล็บมือเล็บเท้า ให้กับนักท่องเที่ยว แลัวเกิดคิดค่าบริการแบบมหาโหด 3,500 บาท พร้อมได้โพส์ตข้อความลงในเฟซบุกรวมพลคนสมุย ว่า “สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้มีเหตุการณ์มาเล่าให้ฟัง วันนี้พ่อของเพื่อนฝรั่งมาถึงวันนี้วันแรก ได้ลงไปพักผ่อนที่ชายหาดละไม และได้ทำเล็บ ตัดหนัง ทำความสะอาดเท้านิดหน่อยพอเสร็จรู้มั้ยค่ะเขาคิดเท่าไหร่ 3,500 ค่ะ 3,500 ไม่ถึง 40 นาทีแล้วคนแก่ไปคนเดียวทำยังไงล่ะค่ะ แกก็ต้องจ่ายไปเพราะแกกลัวว่าจะมีปัญหา ถามเพื่อนๆหน่อยค่ะ ราคานี้โอเคไหมคะ คุณฆ่าตัวเองชัดๆ ฝรั่งเขาก็ต้องบอกกันต่อๆไป แล้วใครจะมาทำกับคุณ แล้วมาบ่นว่าไม่ได้ลูกค้า ก็ทำแบบนี้แล้วจะได้จากที่ไหนค่ะ ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลหน่อยนะค่ะ”

ต่อมาผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปพบกับเจ้าของโพส์ตเฟซบุ๊กดังกล่าว ที่บังกะโลแห่งหนึ่งบนชายหาดบ้านละไม ใน ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย พร้อมกับเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น และยังได้เป็นล่ามแปลการสื่อสาร ระหว่างนายคาซาล นิคโก้ อายุ 52 ปี สัญชาติสวีเดน นักท่องเที่ยว ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เพิ่งเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย พร้อมด้วย ภรรยา เป็นครั้งแรก และได้เดินลงไปทานอาหารที่ ชายหาดบ้านละไม หมู่ 3 ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อมาได้มีกลุ่มหญิงอายุประมาณ 35-45 ปี เป็นชาวไทย สวมเสื้อกั๊กสีชมพู หิ้วตะกร้าอุปกรณ์ ในการเสริมสวย ประมาณ 4-5 คนมาล้อมหน้าล้อมหลัง ก่อนเชิญชวนให้บริการตัดเล็บ มือเล็บเท้า ด้วยความเกรงใจ เพราะมากันหลายคน จึงได้ยินยอม ให้กลุ่มคนตัดเล็ป ทำการตัดเล็บมือ และเล็ปเท้า ใช้เวลา 30 นาที จากนั้นกลุ่มหญิงดังกล่าว ได้นำบิลหรือใบเสร็จ มาเรียกค่าใช้จ่ายไป 3,500 บาท พร้อมพูดจาเสียงดัง จนตนจำใจต้องควักเงินจ่าย เพราะไม่อยากมีปัญหา พร้อมวอนให้หน่วยงานขอรัฐเร่งตรวจสอบ ก่อนจะทำให้ภาพลักษณ์ ท่องเที่ยวเกาะสมุยเสื่อมและเสีย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว ยังได้ถามว่ารู้สึกอย่างไร กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น นายคาซาล นิคโก้ ผู้เสียหาย ยังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยอาการกลัวๆว่า ถึงกับช็อก นึกไม่ถึงว่าจะเจอกับเหตุการณ์ แบบนี้ แต่ตนเชื่อว่าคนไทยเป็นคนน่ารักโอบอ้อมอารีย์ เป็นส่วนมาก ส่วนคนไม่ดีเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ ผู้สื่อข่าว ยังถามอีกว่า ต่อไปจะมาเที่ยวที่เกาะสมุยอีกหรือไม่ นายคาซาล กล่าว ว่าหากมีโอกาศจะมาอีก ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าว ถามต่อว่า จะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ นายคาซาล เปิดเผยว่า เดี่ยวตนทำธุระก่อนแล้วจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.บ่อผุด อำเภอเกาะสมุยเพื่อขอส่วนต่างที่เกิดจากอัตราจริงคืนมา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางลงพื้นที่ชายหาดสาธารณะบ้านละไม หมู่ 3 ตำบลบ่อผุด พบว่าบริเวณดังกล่าว หนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว และพบว่า มีหญิงกลุ่มหนึ่ง กำลังบริการตัดเล็บมือเล็บเท้าให้นักท่องเที่ยว เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวถึงกับตกใจ พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามนาง อำไพ อุปลา อายุ 55 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว มีอาชีพรับจ้างบริการนวดและตัดแต่เล็บมือเล็บเท้าให้กับนักท่องเที่ยว บนชายหาดบ้านละไมมากว่า 10 ปี แต่จากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นตนยังไม่ทราบ ว่าคนกลุ่มไหน เพราะบริเวณชายหาดดังกล่าว มีคนที่บริการนวดและตัดเล็บบริการนักท่องเที่ยวกว่า 20 ราย

นางอำไพ ยังกล่าวอีกว่า ในกลุ่มของตนมีอยู่ด้วยกัน 3-4 คน และอัตราค่าบริการตัดเล็บ มือเเละเท้า หากรวมเพ้นสีด้วยราคา ประมาณ 900 บาท เพราะต้องใช้เวลา แต่หากตัดเฉพาะเล็บมือและเท้าราคาประมาณ 300 บาท ขณะเดียวกันหากเราบอกราคาไป หากนักท่องเที่ยวไม่ต่อรอง ก็ถือว่านักท่องเที่ยวเต็มใจให้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวย้อนถามกลับไปว่า แต่ที่นักท่องเที่ยว แค่นัดเล็บมือและเท้าและต้องจ่ายไป 3,500 บาท และตนได้นำป้ายบอกราคาให้นักท่องเที่ยดูทุกครั้ง ถือว่าแพงไม๊ นางอำไพ กล่าว ว่าแพงมาก และขอฝากไปถึงกลุ่มคนที่เก็บอัตราที่แพงจริงดังที่เป็นข่าว ตนถือว่า ใช้ไม่ได้ เป็นการทำลายอาชีพตัวเอง และทำลายภาพลักษณ์ การท่องเที่ยวด้วย นางอำไพ ผู้ให้บริการตัดเล็บนักท่องเที่ยวบนชายหาดสาธารณะหาดละไม กล่าว

บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าว ได้รับการเปิดเผยจากนายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธ์ุ เลขาธิการสมาคม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว จากเหตุการณ์ ดังกล่าว ทำให้ภาพลักษณ์ ท่องเที่ยวเสียหาย ดังนั้น ฝากถึงผู้ประกอบการบนชายหาด ฝากดูแลประชาสัมพันธ์ กับนักท่องเที่ยว ถึงราคา ค่าบริการในการให้บริการทำเล็บ หรืออื่นเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวโดนโกงจากคนกลุ่มนี้

พร้อมกันนี้ จากเหตุการณ์ ดังกล่าว ถือเป็นบทเรียน และหากตนเสร็จสิ้นภารกิจงานท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว ตนจะเร่งเดินทางกลับเกาะสมุย พร้อมไปขอโทษนักท่องเที่ยวดังกล่าว ที่ทำเรื่องไม่ดี พร้อมจะเร่งร่วมประชุมกับทางเทศบาลนครเกาะสมุย เพื่อขอความร่วมมือให้สกรีน และจัดทำประวัติ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า และการให้บริการอื่นๆบนชายหาดสาธารณะ บนเกาะสมุย เพื่อไม่ให้กระทบกับการท่องเที่ยวบนเกาะสมุยนายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธ์ุ เลขาธิการสมาคม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เผย

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี