ทวี สอดส่อง’ ร่วมละศีลอดกับพี่น้องมุสลิม จะนะ รับเรื่องร้องเรียนนายทุนรุกที่ดิน กุโบร์โบราณ 400 ปี

0
322
   เย็นวานนี้ 24 มี.ค. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และคณะ เดินทางมาร่วมละศีลอด ที่บริเวณกุโบร์ (สุสาน) บ้านท่ายาง ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นกุโบร์โบราณกว่า 400 ปี ริมปากคลองนาทับ โดยมีชาวบ้านจำนวนหลายสิบคนมาร่วมต้อนรับ พร้อมด้วย ดร.มังโสด หมะเต๊ะ ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.สงขลา เขต 8 และอาจารย์เบน หรือนายอับดุลเราะมัน มอลอ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 7


   ก่อนการละศีลอด มีตัวแทนชาวบ้านร้องเรียนปัญหาว่าที่ดินบริเวณนี้มีนายทุนเอาเปรียบชาวบ้านมาอ้างกรรมสิทธิ์ว่าเป็นที่ดินของตนเอง จึงได้รวมตัวกันเรียนร้องสิทธิในที่ดิน โดยได้เรียกร้องผ่านเทศบาล อำเภอ แม้จะมีการมาทำรางวัดแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า  กุโบร์แห่งนี้ทิศตะวันออกติดทะเลหลวง ทิศตะวันตกติดคลองนาทับ ซึ่งบริเวณโดยรอบนี้เป็นของนายทุนหมดแล้ว ชาวบ้านมีความกังวลว่ากุโบร์จะถูกอ้างกรรมสิทธิ์และถูกทำลายไป อนาคตจะไม่มีกุโบร์ให้ฝังศพอีกต่อไป ซึ่งกุโบร์แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี ตั้งแต่สมัยรายาบีรูของผู้ปกครองรัฐปาตานีในอดีต จึงรู้สึกอุ่นใจมากที่ผู้หลักผู้ใหญ่มาให้ความสนใจปัญหาของชาวบ้านและมาร่วมกันละศีลอดที่นี่ ชาวบ้านจึงขอให้ช่วยเหลือ จริงๆเพราะไม่รู้จะพึ่งพาใครแล้ว หวังพึ่งพรรคประชาชาติเป็นที่พึ่งสุดท้าย

 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ได้ลุกขึ้นกล่าวพบปะกับชาวบ้านว่า พวกเราได้มายืนอยู่ในที่ที่นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกคนหนึ่งนั่นคือเชคดาวุด อัลฟาฏอนีย์ ได้มารอมแรมอยู่บริเวณนี้ ผมได้เคยไปพบกับรัฐบาลอินโดนีเซีย ได้ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศาสนาอินโดนีเซีย ท่านบอกว่าอินโดนีเซียมีมุสลิม 250 ล้านคน และมีผู้นับถือศาสนาอื่นๆอีก 4% แต่คนทุกศาสนาในอินโดนีเซียมีความเสมอภาค คือมีอธิบดีศาสนาอิสลาม 1 คน อธิบดีศาสนาพุทธ 1 คน และอธิบดีศาสนาคริสต์ 2 คนเพราะมี 2 นิกาย แม้ทั้งประเทศจะเป็นมุสลิมเกือบทั้งหมดแต่ทุกศาสนาก็มีอธิบดีเสมอกัน ในส่วนของมุสลิมจะมี 3 กลุ่มนิกาย ส่วนใหญ่เป็นนิกายที่มาจากเชคดาวุด อัลฟาฏอนีย์ ชาวปัตตานีที่เคยมารอนแรมในที่แห่งนี้ 

  พันตำรวจเอก ทวี ได้ขอบคุณผู้ที่เขียนข้อมูลประวัติศาสตร์ของกุโบร์โบราณแห่งนี้ ว่าเป็นเอกสารที่ล้ำค่ามาก เพราะเราจะไม่สามารถหาอ่านจากเอกสารของรัฐได้เลย หรืออาจจะหาอ่านได้จากงานเขียนของ รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา ที่ได้เขียนว่าคนมลายูใน 3 จังหวัดภาคใต้ต้องอพยพไปยังนครมักกะห์ในยุคต่างๆเป็นเพราะอะไร ผมอ่านแล้วตกใจมาก ต้องขอบคุณผู้ที่เขียนประวัติศาสตร์นี้ ไว้ให้ ดร.มังโสด หมะเต๊ะ เป็น ส.ส.แล้วต้องบรรจุประวัติศาสตร์นี้เข้าไปในหลักสูตรการศึกษาไปด้วย

 จากนั้น ทุกคนได้ร่วมกันละศีลอดที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างกุโบร์โบราณ ริมคลองนาทับ ท่ามกลางดาวเคียงเดือน ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันที่ 2 ของเดือนรอมฎอนที่พี่น้องมุสลิมได้ถือศีลอดพร้อมกันทั่วโลก ก่อนจะมีการละหมาดมัฆริบร่วมกันที่ศาลา และร่วมกันขอดุอาอ์ให้ ดร.มังโสดและพรรคประชาชาติได้เข้าไปทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรในรัฐสภา 

ทีมข่าว@ชายแดนใต้