นราธิวาส – ทุกด่านเข้มเดินทางเข้าจังหวัดฯ ต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม หรือมีผลตรวจโควิด-19

0
1076

นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนราธิวาส ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนราธิวาส ออกคำสั่งจังหวัดนราธิวาส ที่ 5288/2564 เรื่อง จัดตั้งด่านตรวจ/จุดสกัด เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 3
โดยระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างต่อเนื่องและมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นเพื่อให้การเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเป็นไปโดยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงให้มีการตั้งด่านตรวจความมั่นคง จุดสกัด เป็นด่านตรวจจุดสกัดเพื่อคัดกรองโรคด้วย ประกอบด้วย จุดตรวจหน้าค่ายจุฬาภรณ์หมู่ที่ 4 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จุดตรวจสะพานกอตอ หมู่ที่ 7 ตำบลปะลุกาสาเมาะอำเภอบาเจาะ จุดตรวจหน้าวัดเชิงเขา หมู่ที่ 4 ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จุดตรวจชุดคุ้มครองตำบลสุวารี หมู่ที่ 4 ตำบลสุวารีอำเภอรือเสาะ จุดตรวจชุดคุ้มครองตำบลเรียงหมู่ที่ 3 ตำบลเรียง อำเภอรือเสาะ จุดตรวจบ้านคลองหงษ์ หมู่ที่ 3 ตำบลตะมะยูง อำเภอศรีสาคร จุดตรวจ 4909 หมู่ที่ 1 ตำบลกาหลงอำเภอศรีสาครบุคคลที่จะเดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดปัตตานียะลาและจังหวัดสงขลา เข้าพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ต้องมีคุณสมบัติและเงื่อนไขดังนี้

1ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้วอย่างน้อยจำนวน 1 เข็ม และมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือเอกสารรับรองในแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม หรือมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด 19 โดยวิธี Antigen test kit(ATK) หรือ RT-PCR ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง หรือมีเอกสารรับรองว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อมาแล้วไม่เกิน 90 วัน หรือมีเอกสารรับรองว่าครบกำหนดการกักตัวแล้ว 14 วัน แต่ทั้งนี้ต้องเดินทางภายใน 72 ชั่วโมงนับแต่วันที่พ้นจากการกักตัว หรือเป็นเด็กที่อายุไม่เกิน 12 ปี ที่เดินทางมากับผู้ปกครองหรือเป็นผู้ที่เดินทางมากับรถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย หรือเป็นผู้ที่เดินทางมาเพื่อตรวจหรือเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ โดยมีใบนัดหรือหลักฐานการรักษา ทั้งนี้จะต้องเดินทางกลับโดยเร็วเมื่อเสร็จภารกิจ

โดยภาพรวมจังหวัดนราธิวาสมีผู้ฉีดวัคซีนฯเข็มที่ 1 ไปแล้วจำนวน 37 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 2 จำนวน23 เปอร์เซ็นต์ โดยจังหวัดนราธิวาสได้เร่งรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนฯ แบบปูพรม เข้าถึงทุกหมู่บ้าน และในอำเภอต่างๆ ทั้ง 13 อำเภอ โดยตั้งเป้า 70 เปอร์เซ็นต์ การฉีดวัคซีนครอบคลุมทั้งจังหวัด เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยตั้งสโลแกนว่า “SAVE NARA NARA SAFE “ ปกป้องคนนรา ด้วยวัคซีน

ทั้งนี้ให้ด่านตรวจจุดสกัด มีหน้าที่ตรวจสอบคัดกรองบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และจังหวัดสงขลา โดยให้คัดกรองบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ข้างต้น ที่โดยต้องมีคุณสมบัติตามที่ระบุ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีความเร่งด่วนอย่างยิ่งหากล่าช้าจะเกิดความเสียหายร้ายแรง สอบถามความจำเป็นของผู้ที่เดินทางเข้ามา โดยขอความร่วมมือให้เดินทางเฉพาะเมื่อมีกรณีจำเป็น ให้ผู้ที่เดินทางลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นไลน์ “นราชนะ” https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=narachana เพื่อบันทึกการเดินทาง พร้อมขอความร่วมมือผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดนราธิวาสให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 D-M-H-T-T-A โดยคำสั่งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
สำหรับการรฉีดวัคซีนจังหวัดนราธิวาสนักเรียนอายุ 12-18 ปี จำนวนทั้งหมด 62,343 คน -ฉีดแล้ว 24,217 คน (61.74%)
สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งหมด 15,776 คน -ฉีดเข็มที่ 1; 12,066 คน (76.48%) -ฉีดเข็มที่ 2; 9,476 คน (60.07%) -ยังไม่ได้ฉีด 3,716 (23.52%)

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร บก.@ชายแดนใต้ จ.นราธิวาส