สั่งปลด !! ถอดยศนายทหาร ภาคที่ 4 ”ฐานความผิดประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง”

0
2979

สั่งปลด !! และถอดยศนายทหาร ภาคที่ 4 ”ฐานความผิดประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง”

จากกรณีนายทหารสัญญาบัตรสังกัด กองทัพภาคที่ 4 ได้ถูกกล่าวหาในความผิดฐาน”พาบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ดังที่ปรากฏเป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมา นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ 12 กันยายน 2562 เวลา 15.00 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ภายหลังทราบเหตุ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความโปร่งใส เเละพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และภายหลังได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงพร้อมสั่งพักราชการในระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัยทหารตามลักษณะฐานความผิดต่อไป 

ทั้งนี้ คณะกรรมการได้เข้าดำเนินการสอบสวนบุคคลและวัตถุพยานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว พบว่านายทหารคนดังกล่าวได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง ถือเป็นการกระทำความผิดวินัยทหารอย่างร้ายแรง ในความผิดฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง กรณีถูกกล่าวหาในความผิดฐาน พาบุคคลอายุมากกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร อันเป็นการกระทำผิดกฏหมายหรือศีลธรรม โดยตนเองก็รู้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายแต่ก็ยังมีเจตนาที่จะกระทำอีก และปัจจุบันได้มีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการและถอดยศทหารเรียบร้อยแล้วสำหรับเรื่องคดีอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

“ตลอดเวลาที่ผ่านมากองทัพภาคที่ 4 ได้มีนโยบายกวดขันวินัยกำลังพลมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีภายในกรมกอง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน และหากมีการตรวจพบการกระทำความผิดก็จะมีมาตรการลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาทหารขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น จึงขอให้สังคมได้มีความมั่นใจว่ากองทัพจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิดในทุกๆกรณี และหากพบเห็นเจ้าหน้าที่ทหารกระทำความผิดหรือสร้างความเดือดร้อน ขอให้แจ้งหน่วยต้นสังกัดทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนและพิจารณาลงทัณฑ์ตามความเหมาะสมต่อไป” พันเอกปราโมทย์ กล่าว…

โฆษกกองทัพภาคที่ 4  ยังกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการเข้าพักอาศัยในบ้านพักของครอบครัวผู้เสียหาย จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า หลังจากคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงของกองทัพ ได้เข้าไปตรวจสอบและพบว่าในส่วนของผู้ที่ได้รับความเสียหายก็จะได้รับการดูแล ในเรื่องแรกคือการทำงานที่สหกรณ์ของหน่วย ก็ยังคงทำงานได้เหมือนเดิม ส่วนการเข้าพักอาศัยในบ้านพัก เนื่องจากว่าขณะนี้ทางคู่กรณีก็ถูกออกจากราชการแล้ว ทางกองพันก็จะมีคำสั่งให้ครอบครัวของผู้เสียหายได้กลับเข้ามาพักอาศัยได้เหมือนเดิม

ภาพ/ข่าว มุกะตา หะไร ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.ยะลา