ยะลา–แม่ทัพ4 สั่งดำเนินดคี “นักการเมืองท้องถิ่นทะเลาะวิวาททหาร” หน้าผับดัง
จากกรณีที่ในโลกโซเชี่ยลได้มีการแชร์คลิปวีดีโอของกลุ่มนักท่องเที่ยว 2 กลุ่มกำลังก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันอย่างชุลมุน ที่บริเวณหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งของจังหวัดยะลาโดยหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ทะเลาะวิวาทได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาแล้วยิงขึ้นฟ้าจำนวนหลายนัด ซึ่งสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน ซึ่งหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลาได้เรียกทั้ง2 ฝ่ายมาให้ปากคำโดยเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มที่ชักอาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าคือกลุ่มของนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.ปัตตานี ส่วนอีกกลุ่มเป็นเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.45 น.ของวันที่22 ส.ค.62 ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กันยายน เวลา 14.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา พลโทจตุพร กลัมพสุต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้าได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าด้านคดีดังกล่าวจาก พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา
โดย พลโท จตุพร กลัมพสุต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค4 กล่าวว่า ตนเองได้รับนโยบายจากท่านพลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค ที่4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค4 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในคดีดังกล่าว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปมีส่วนร่วม ซึ่งในครั้งนี้ตนเองได้นำภาพวีดีโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มีประชาชนบันทึกภาพเอาไว้ได้มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนด้วย ท่านแม่ทัพภาค 4 ได้ให้แนวนโยบายมาว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายทั้งเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในเหตุการณ์หรือผู้แทนปวงชน และจะต้องยึดหลักความยุติธรรมตามพยานหลักฐานเป็นหลัก ให้ดำเนินคดีตามพยานหลักฐานจะยอมความได้หรือไม่ได้ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย
“ได้มีการประสานไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีให้ตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ของปกครองและข้าราชการการเมือง ส่วนฝ่ายทหารก็พร้อมให้ความร่วมมือกับทางพนักงานสอบสวน แต่ในเบื้องต้นฝ่ายทหารได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนในกรณีขัดคำสั่งเรื่องวินัยเพราะฝ่ายทหารโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 มีกฎเหล็ก9 ข้อ ข้อแรกคือห้ามดื่มสุราห้ามสร้างเงื่อนไขไปรังแกชาวบ้านไปเก็บพืชผลชาวบ้านซึ่งมีระเบียบอยู่ใครฝ่าฝืนต้องถูกลงโทษซึ่งกรณีนี้ได้จำขังทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วและส่งฝึกวินัยเพิ่มเติมอีก1 เดือนส่วนจะถูกใครทำอะไรมานั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะไปว่ากันตามกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ในเรื่องของวินัยก็ได้มีการทำโทษตามวินัยไปแล้ว” พลโทจตุพร กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา กล่าวว่า ในส่วนของพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตามข้อกฎหมายและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ซึ่งในเบื้องต้นได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาให้ปากคำรวมทั้งแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำความผิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.
ภาพ/ข่าว มูกะตา หะไร ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.ยะลา