ทลายกำแพงโลกสื่อสารไร้เสียง“เรียนด้วยกัน”….ความพิการไม่มีจริง !!
จากสถิติข้อมูล ปี62 มีจำนวนผู้พิการประมาณ2 ล้านคนคิดเป็นร้อยละ 3.01 ของคนไทยทั้งประเทศและ 3 อันดับแรกเป็นคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกายรองลงมาคือคนพิการทางการได้ยิน (หูหนวก) และคนพิการทางการมองเห็น (ตาบอด) จากตัวเลขนี้นำมาสู่โครงการ “ด้วยกัน” ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับภาคีภาคส่วนต่างๆขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี2558 เพื่อสนับสนุนให้คนพิการทุกประเภทความพิการและคนไม่พิการสามารถเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุขบนพื้นฐานความแตกต่างผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีและพัฒนาสังคมการเรียนรู้ควบคู่กับสร้างเสริมทัศนคติเชิงบวกในการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม
ล่าสุด ร่วมกับบริษัทกล่องดินสอจำกัด วิทยาลัยราชสุดา กองกิจการนักศึกษาและกองเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.มหิดลจัดกิจกรรม“เรียนด้วยกัน” ครั้งที่1 เปิดพื้นที่ให้นักศึกษาพิการทางการได้ยินจากวิทยาลัยราชสุดาและคนไม่พิการซึ่งเป็นอาสาสมัครศิษย์เก่าจาก ม.มหิดลที่สนใจเข้ามาเรียนรู้การออกแบบงานกราฟิกดีไซน์ จำนวน20 คนโดยจับคู่บัดดี้เรียนร่วมกันใช้เวลาเรียน10 วันจนสามารถสร้างชิ้นงาน Final Project ที่นำเสนอออกมาเป็นผลงานกราฟิกได้อย่างน่าทึ่ง
นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. สนับสนุนโครงการด้วยกันเพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่คนพิการและคนไม่พิการให้สามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้และสร้างองค์ความรู้เพื่อให้องค์กรอื่นๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้โดยมุ่งให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และภายใต้โครงการด้วยกันมีกิจกรรมหลากหลาย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 สำหรับกิจกรรมเรียนด้วยกันมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างคนพิการและคนไม่พิการให้เข้าใจในข้อจำกัดของกันและกัน
ดร.วรางคณา รัชตะวรรณ รักษาการแทนรองคณบดีฝ่ายการศึกษากิจการนักศึกษาและสื่อสารองค์กร วิทยาลัยราชสุดามหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนรู้จากโครงการนี้ไม่ใช่เพียงแค่เนื้อหาของบทเรียนแต่เป็นการเรียนรู้“วิธีการเรียน” ซึ่งกันและกันโดยทางวิทยาลัยราชสุดาจะนำผลจากการดำเนินกิจกรรมนี้ไปในพัฒนาหลักสูตรอาชีพระยะสั้นด้านการออกแบบกราฟิก สำหรับพัฒนาศักยภาพผู้พิการที่ตอบสนองต่อตลาดแรงงานให้ผู้พิการตระหนักถึงคุณค่าและศักยภาพของตนเองในการเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมให้เข้มแข็งและยั่งยืน
ด้านนายสมบูรณ์ ชุติวิโรจน์สกุล ผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัทกล่องดินสอจำกัด กล่าวว่า กล่องดินสอมีความเชื่อว่าความพิการไม่มีจริงมีแต่สภาพแวดล้อมที่พิการเท่านั้นเราจึงมองเห็นโอกาสพัฒนาผู้พิการทลายความเชื่อเดิมๆที่ว่าผู้พิการทำได้เฉพาะบางอาชีพและด้วยความเชื่อนี้ที่มีทำให้เกิดโครงการเรียนด้วยกันขึ้นซึ่งสิ่งที่มากกว่าพัฒนานักกราฟิกดีไซน์ 20 คน แต่ได้เห็นมิตรภาพมุมมองของผู้พิการเปลี่ยนไปและสามารถพัฒนาคนพิการให้มีโอกาสมากยิ่งขึ้น ตอบเป้าหมายของกล่องดินสอในการมุ่งสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นจริงได้
โครงการ“เรียนด้วยกัน” ครั้งที่1 เริ่มเรียนตั้งแต่วันที่28 มิ.ย.จนถึง วันที่12 ก.ค.2562 โดยจับคู่กันเรียนวิชาออกแบบกราฟิกพื้นฐานด้วยกันตั้งแต่การใช้เครื่องมือการวางองค์ประกอบของภาพการใช้ตัวอักษรการออกแบบชิ้นงานสื่อสิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์และเรียนรู้การเล่าเรื่องแบบStorytelling ไปจนถึงการออกแบบชิ้นงานFinal Project ภายใต้แนวคิด“What is favorite time of Day ” ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวัน โดยนำเสนอออกมาเป็นผลงานกราฟิกซึ่งแต่ละชิ้นงานถ่ายทอดเรื่องราวได้น่าสนใจและมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันโดยทั้งหมดจัดแสดงให้ชมในงานนิทรรศการSee Scenes ระหว่างวันที่23 ก.ค. จนถึงวันที่4 ส.ค. 62 ณบริเวณชั้น4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ตลอด10 วันที่ในโลกการสื่อสารไร้เสียงที่ต้องใช้ชีวิตด้วยกันเรียนด้วยกันสิงที่ได้มากกว่าวิชาความรู้คือได้มิตรภาพความประทับใจและเรื่องราวดีๆที่มีคุณค่าและมีความหมายมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างทาง
หนึ่งเสียงสะท้อนจาก น.ส.วิมลศรี จินดานุ (เบล่า) นักศึกษาผู้พิการทางการได้ยินที่เข้าร่วมเล่าว่าตอนแรกตัวเองก็กังวลใจเหมือนกันเพราะไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมแบบนี้มาก่อนแต่ด้วยความชอบงานด้านกราฟิกดีไซน์ชอบคิดชอบออกแบบจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการก็รู้สึกดีที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับเพื่อนที่ปกติ แม้ในการสื่อสารจะมีอุปสรรคบ้างแต่เราก็ข้ามผ่านไปได้ จากแค่หวังเพียงความรู้เพิ่มเติมเพื่อนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ แต่กลับได้มากกว่ามันได้มิตรภาพที่ดียังเป็นเพื่อนที่พร้อมจะช่วยเหลือกันสื่อสารกันทางไลน์เหมือนคนปกติทั่วไป
“เมื่อเราอยู่ในสังคมมีความแตกต่างหลากหลายอาจเจอคนพิการทางการได้ยินถ้าใช้ภาษามือไม่ได้ก็ใช้การเขียนแทนทำให้คนหูหนวกอยู่ด้วยกันมีความสุข” เบล่าสื่อสารในสิ่งที่อยากบอกกับสังคม
ส่วนน.ส.ปิยธิดา สวันตรัจฉ์(เมย์) อาสาสมัครเพื่อนช่วยเรียนบัดดี้ของเบล่าก็รู้สึกไม่ต่างกับเมย์เขาเล่าให้ฟังว่าพอได้ยินโครงการนี้สิ่งแรกที่คิด คือต้องการช่วยเหลือคนหูหนวกเพราเชื่อว่าคนพิการน่าสงสารคนพิการต้องการความช่วยเหลือแต่พอได้มาเรียนด้วยกันรู้จักกันมากขึ้นทำให้เราได้เรียนรู้ว่าผู้พิการไม่ได้ต้องการความสงสารแต่ต้องการให้ปฏิบัติกับเขาเหมือนกับคนทั่วไปเพราะบางครั้งความหวังดีอาจทำให้เขารู้สึกแย่จะช่วยเขาเท่าที่เขาอยากให้ช่วยดีกว่า
“ยอมรับว่าแรกๆ ยากมากเพราะต้องสื่อสารภาษามือซึ่งเบลล่าจะถามตลอดแม้จะย้ำคำตอบไปหลายครั้งแต่ก็ค่อยๆ ปรับตัวจนคุ้นชินทำให้เรียนสนุกกันมากขึ้นวันสุดท้ายได้มานั่งเปิดใจคุยกันโดยมีล่ามภาษามือแปลทำให้เราเข้าใจเบล่ามากขึ้น และที่ประทับใจได้มีโอกาสไปกินเนื้อย่างด้วยกันกับพี่ๆคุยภาษามือกันอย่างสนุกสนาน ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของโลกคนพิการทางการได้ยินที่สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุขบนพื้นฐานความแตกต่าง” เมย์สะท้อนความรู้สึก
“เรียนด้วยกัน” โลกการเรียนรู้ไร้เสียงรูปแบบใหม่ของผู้พิการทางการได้ยินอีกหนึ่งนวัตกรรมสร้างสรรค์ที่ก้าวข้ามความพิการสะท้อนความเท่าเทียมที่ทุกคนมีศักดิ์ศรี มีความสามารถและมีศักยภาพที่จะเรียนรู้เท่ากัน สสส. พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมทางเลือกนวัตกรรมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเพื่อให้คนพิการมีสุขภาวะที่ดีทั้งมิติกายจิตปัญญาและเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่มีศักดิ์ศรีทัดเทียมกับคนทั่วไป