ปัตตานี–อุสตาสยูโซะ ระบุชัด เหตุลอบสังหารไม่ใช่ฝีมือ เจ้าหน้าที่รัฐ..
จากกรณีคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนายยูโซะยะลา ได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดภายใน รร.วัฒนธรรมอิสลามพ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1กค. ที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องภายในโรงเรียนมาสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสขยายผลไปยังกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
จากกรณีดังกล่าว ได้มีความพยายามชี้นำให้สังคมเชื่อว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ พร้อมปลุกระดมโจมตีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่กล่าวหาคุกคามครูสอนศาสนาและทำลายสถาบันการศึกษาปอเนาะผ่านสื่อต่างๆอย่างกว้างขวาง
ล่าสุด วันที่ 3 กค.พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่เร่งรัดคลี่คลายคดีนี้ ซึ่งเป็นที่สนใจของสังคมให้เร็วที่สุด โดยให้ปฏิบัติทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวังรอบคอบและโปร่งใส ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า นายยูโซะยะลา ได้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหากับ กอ.รมน. ภาค4 ส่วนหน้า มาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นคณะที่ปรึกษาด้านการอำนวยความยุติธรรมของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งแต่ปี 2548 – ปัจจุบัน จึงไม่มีเหตุผลที่เจ้าหน้าที่จะไปก่อเหตุทำร้าย เพราะนอกจากจะขัดกับนโยบายของผอ.รมน.ภาค 4 แล้ว ยังสอดคล้องกับคำให้การของผู้ได้รับบาดเจ็บที่ระบุชัดว่า “ไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน” แต่อาจเป็นฝีมือบุคคลที่สามซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องสืบสวนสอบสวนบุคคลรอบข้างรวบรวมวัตถุพยานและตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน เบื้องต้นยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่คาดว่าน่าจะสามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุและผู้เกี่ยวข้องได้ในเร็วๆนี้
สำหรับกรณีการเชิญตัวนายมุกตาร์ แวเลาะ อุสตาส รร.วัฒนธรรมอิสลามพ่อมิ่ง เมื่อวันที่2 กค.62 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติด้วยความละมุนละม่อมโดยจัดกำลังเข้าไป 2 ชุดปฏิบัติการรวม 24 นายและเข้าไปเชิญตัวอุสตาสในโรงเรียน 6 นายที่เหลือรออยู่ด้านนอก โดยระหว่างนั้นได้มีความพยายามปลุกระดมนักเรียนประมาณ 100 คนให้ขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ จึงเห็นได้ว่าไม่เป็นไปตามที่พยายามให้ข่าวผ่านสื่อต่างๆ ว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ใช้กำลังกว่า100 นายเข้าจับกุมอุสตาสท่ามกลางนักเรียนกว่า1000 คนแต่อย่างใด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เชิญตัวนายเพาซี อุมา เจ๊ะฆู รร.ตาดีกาบ้านท่าน้ำ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เนื่องจากได้แสดงพฤติกรรมน่าสงสัยโดยได้พยายามขัดขวางเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุภายในโรงเรียนโดยอ้างว่า ” ทหารอย่ายุ่งไม่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่” ปัจจุบันทั้ง 2 คนอยู่ระหว่างการซักถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
จากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฏหมาย เป็นการเข้าเชิญตัวมาให้ข้อมูลมิใช่การเข้าจับกุม จึงขอให้หยุดอ้างอุสตาสและ รร.ปอเนาะมาบิดเบือนปลุกระดมเพื่อขยายความขัดแย้ง ดังที่หลายฝ่ายพยายามกระทำอยู่ในปัจจุบัน และขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย เพื่อเร่งคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด.
