แฉ..แก๊งตำรวจนอกรีด!! อุ้มไถ่ ส.ต.ท.2 แสนทั้งที่รู้ว่าเป็นตำรวจปัตตานี เหยื่อร้องรอง ผบช.9 ลั่นถ้าผิดไม่เอาไว้
ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ตำแหน่ง ผบ.หมู่(ป) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี(ผู้เสียหาย) พร้อมด้วย ร.ต.อ.สยบมาร ไมตรีจร เจ้าหน้าที่ชุดEOD จ.ปัตตานี(ลุง) และครอบครัวได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือและหลักฐานต่อ พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณรองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค9 ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวเรียกทรัพย์เหตุเกิดที่บริเวณซอย18 รัตนอุทิศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาเมื่อ22.30 น. คืนวันที่ 26 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา
ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ เล่าว่าในวันเกิดเหตุตนกำลังเดินทางขับรถไปส่งเพื่อนๆหลังเสร็จงานเลี้ยงวันเกิดของตนเองเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณซอย18 รัตนอุทิศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลามีรถกระบะวีโก้สีดำมาจอดและมีชายฉกรรจ์ประมาณ10 คนลงมาจากรถและมุ่งตรงมาที่ตนเองโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นใครจากนั้นเพื่อนของตนได้นำปืน M16ซึ่งเป็นปืนประจำกายที่อยู่ในรถเก๋งออกมาจากรถทำท่าจับแนวเฉียงเพื่อป้องกันตัวเพราะไม่รู้ว่ากลุ่มชายฉกรรจ์เป็นใคร และไม่ได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไม่มีการแขวนบัตรให้เห็นจนกระทั่งมีเสียงตะโกนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าขัดขืน ทราบที่หลังว่าเป็นชุดสืบสวน ภาค9 และมีหัวหน้าชุดยศ ดต.ตนเห็นเพื่อนเอาปืนดังกล่าวออกมาจึงบอกให้เก็บและตนก็ตะโกนกลับไปว่าตนก็เป็นตำรวจทันใดนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ก็ได้เข้าประชิดตัวจับกุมตนและเพื่อนจากนั้นได้มีการนำตนและไปกักขังหน่วงเหนี่ยวที่เซฟเฮ้าส์ในซอยร้านอาหารสุขขำใกล้ๆกับสามแยกท่าแซ1 คืนโดยที่ไม่ได้นำส่งพนักงานสอบสวนท้องที่รับผิดชอบพร้อมทำการบันทึกการจับกุมแจ้งข้อหามีอาวุธปืนของทางราชการออกนอกพื้นที่ไว้ในครอบครองและพยามฆ่าเจ้าหน้าที่ในการจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ให้นางสาวเอ(นามสมมุติ) แฟนสาวของเจ้าหน้าที่ในการจับกุมเป็นธุระประสานผู้ปกครองของตนและเพื่อนให้นำเงิน500,000 บาทมาให้จึงจะพ้นผิดไม่ต้องดำเนินคดีใดๆและจะทำการปล่อยตัวทางผู้ปกครองเมื่อรับทราบเรื่องมีความกลัวและเกรงว่าลูกจะถูกจับและออกจากตำรวจจึงเร่งรีบรวบรวมทรัพย์สินไปขายและได้เงินมาจำนวน120,000 บาทจากนั้นรีบเดินทางจาก จ.พัทลุงไปหาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่เซฟเฮ้าที่นัดหมายโดยที่ผู้ปกครองกับตนและเพื่อนถูกแยกไม่ได้เจอหน้ากันซึ่งในการเจรจานั้นตนไม่รู้เรื่องเลยโดยผู้ปกครองได้
เสนอต่อรองกับชุดจับกุมแต่ไม่เป็นผลเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสั่งผ่านนางสาวเอ(นามสมมุติ) ลดให้เหลือ 200,000 บาทถ้าไม่ได้เงินตามจำนวนจะส่งดำเนินคดีทันที
ทางผู้ปกครองของตนจึงตัดสินใจจำนำรถยนต์เก๋งโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ก 2941 กรุงเทพมหานคร ของผู้เสียหายได้เงินตกลงทางวาจาจำนวน 80,000 บาทรวมกับ120,000 บาทครบ200,000 บาท แต่ฝ่ายนส.เอบอกว่าคิดดอกร้อยละสิบจาก80,000 บาทเป็น88,000 บาทหากจะมาไถ่ถอนจากนั้นจึงมีการปล่อยตัวผู้เสียหายพร้อมพวกจำนวนทั้งหมด6 คน และได้คืนอาวุธปืนประจำกายของตนในช่วงเที่ยงของวันที่27 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา
ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ เล่าต่อไปว่าผู้ปกครองของตนได้ติดต่อนางสาวเอ(นามสมมุติ) เพื่อขอไถ่ถอนรถยนต์เก๋งโตโยต้า หมายเลขทะเบียนก2941 กรุงเทพมหานครปรากฎว่านางสาวเอ(นามสมมุติ) พยายามบ่ายเบี่ยงและบอกว่ารถคันดังกล่าวได้ขายต่อให้กับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดไปแล้วในราคา120,000 บาททางผู้ปกครองเสียใจมากและได้ไปปรึกษา ร.ต.อ.สยบมาร ไมตรีจร เจ้าหน้าที่ชุดEOD ปัตตานีซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงและเป็นพี่ชายของผู้ปกครองทำให้ลุงโกรธมากเพราะไม่คิดว่าตนซึ่งเป็นหลานและเป็นตำรวจจะถูกกระทำแบบนี้ จึงทำบันทึกรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมดยื่นต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอความเป็นธรรม
นางอุบล จันทร์ดำ แม่ของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชายตนครั้งนี้เป็นเรื่องที่เสียใจมากๆเพราะลูกก็เป็นตำรวจและลงไปทำงาน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สาเหตุที่มาร้องเรียนช้า เพราะตนกลัวที่ถูกข่มขู่กลัวว่าลูกเดือดร้อนตนไม่รู้เรื่องกฏอะไรเลยรู้เพียงว่ากลัวอย่างเดียวเพราะช่วงที่เดินทางถึงเซฟเฮ้านั้นตนไม่ได้เจอลูกเป็นห่วงลูกมากบรรยากาศตอนนั้นตนพะวงทุกเรื่องเพราะถูกแยกห้องกันและด้วยความกลัวต่างๆนาๆในเวลานั้นจึงต้องหาเงินต้องขายทองยืนญาติให้ได้เงินมาตามที่เค้าต้องการ 500,000 บาทแต่ตนหาได้เพียง120,000 บาทเท่านั้นแต่ทางนั้นเค้าบอกว่าให้แค่นี้เหมือนดูถูกเค้าและบอกว่างั้นลดให้เหลือ200,000 บาทส่วนรถเก๋งจะยึดจำนองไว้ราคา80,000 บาทและคิดดอกร้อยละสิบ แต่พอจะไถ่ปรากฏว่ารถขายให้พวกยาไปแล้วและตลอดเวลาทางเมียของตำรวจที่จับลูกติดต่อไลน์มาตลอดเกี่ยวกับเรื่องเงินอย่างนั้นอย่างนี้ตนไม่รู้จะทำยังไงจึงได้บอกเรื่องนี้กับพี่ชายซึ่งเป็นตำรวจEOD ทำให้พี่ชายโกรธมากจึงมาขอความเป็นธรรมและช่วยเหลือด้วย
ด้าน พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค9 เปิดเผยว่า กรณีมีข้าราชการตำรวจในพื้นที่และทางญาติมาร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรมถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวเรียกทรัพย์พร้อมทั้งได้ยื่นเอกสารและหลักฐานทั้งหมดให้นั้นก็จะดำเนินการรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบจากเรื่องที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรซึ่งความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบโดยเร็วที่สุดไม่ต้องห่วงถ้าเป็นจริงก็ถือว่าเป็นคนไม่ดีก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฏหมายอย่างเด็ดขาดและไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาข่มขู่แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่จริงก็ต้องว่ากันไปตามหลักฐาน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะจัดการกับเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ใครทำผิดก็ต้องว่ากันไปทั้งทางวินัยและทางอาญาไม่ยกเว้น แม้กระทั่งใครที่เกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการทั้งหมดอย่างไรก็ตามจะให้ความเป็นธรรมทั้ง2 ฝ่ายและจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นผิดว่าไปตามผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังจากที่ผู้เสียหายได้มีการยื่นหนังสื่อถึง รองผบช.ภาค9 ปรากฏว่า พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค9 ได้เรียกพล.ต.โพธสวยสุวรรณรองผบช.ภ.9 เข้าพบและกำชับให้มีการสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบทันทีโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวอ้างให้มีการเช็คข้อมูลและความจริงว่าเป็นอย่างไรเรื่องนี้จะต้องกระจ่างโดยเร็วเร่งรายงานให้ตนทราบผิดก็ว่าไปตามผิดและจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ทีมข่าว @ชายแดนใต้
