โฆษกฯ กอ.รมน. เผยเหตุระเบิด ATM มุ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน (ชมคลิป)

0
906

โฆษกฯ กอ.รมน. เผยเหตุระเบิด ATM มุ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน

วันที่ 21 พค.  ที่ โรงพยาบาลปัตตานี พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า จากากรตรวจสอบจุดเกิดเหตุทั้งหมดนั้น คนร้ายใช้ระเบิดขนาดเล็กก่อกวนใช้ระเบิดขนาดเล็ก ส่วนใหญ่เป้าหมายคือ ตู้เอทีเอ็ม กระจายไป 4 จังหวัด ยะลา 9 จุด ปัตตานี 10 จุด นราธิวาส 3 จุดและ จ.สงขลา 2 จุด โดยแยกเป็นการก่อเหตุในลักษาณะดังนี้ 1.การก่อเหตุด้วยระเบิดที่ตู้เอทีเอ็ม จำนวน 14 จุด 2.การวางวัตถุต้องสงสัยเพื่อก่อกวน จำนวน 5 จุด และวางระเบิดเสาไฟฟ้า 2 จุด ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดได้ 2 จุด และมีการยิงใส่ฐานปฏิบัติการณ์ของหน่วยเฉพาะกิจทหารเรือ ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ แม่ทัพภาคที่ 4 จึงได้ย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจเข้ามาดูแลในเรื่องความปลอดภัยทันที เป้าหมายหลักของคนร้ายที่ก่อเหตุคือ ตู้เอทีเอ็ม เพื่อต้องการสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน เพราะจุดที่ก่อเหตุเป็นจุดสาธารณที่ประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้คนร้ายต้องการที่จะผ่าฝืนหลักคำสอนของหลักอิสลาม เพราะเดือนนี้เป้นเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม คือเดือนรอมฎอนที่ต้องประกอบศาสนกิจ ซึ่งที่ผ่านมาองค์ศาสนาทั้ง 11 องค์กรก็ออกมาประกาศเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในเรื่องของประพฤติปฏิบิตตนในช่วงเดือนรอมฎอน

และเมื่อคืนหลังเกิดเหตุ แม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมวัตถุพยานที่จะนำไปสู่การติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุครั้งนี้พอรู้ตัวแล้วว่าเป้นกลุ่มไหนบ้าง และจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีหลักฐานหลายจุด โดยเฉพาะลักษณะของคนร้ายที่มีการแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ   ซึ่งหลังเกิดเหตุเมื่อคืนจนถึงเช้านี้เราได้ยังคงเข้มงวดในการรวบรวมวัตถุพยานให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ยังได้ย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัย ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างสูงสุด โดยเฉพาะในช่วงคืนรอมฎอน และตามจุดตรวจอาจต้องเพิ่มมากขึ้นอีก

ซึ่งก่อนหน้าเดือนรอมฎอน เจ้าหน้าที่ได้สกัดกั้นคนร้ายไม่ให้เข้ามาก่อเหตุได้เช่นที่อ.สุไหงโกลก อ.มายอ และแว้ง ต่อไปนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจ และเราจะใช้มาตรการให้รัดกุมยิ่งขึ้น และใช้มาตรการทางกฎหมาย  ให้สืบไปถึงตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป

ทีมข่าว @ชายแดนใต้