ประหาร “บังฟัด”และพวก คดีฆ่า 8 ศพผู้ใหญ่วรยุทธ ผบ.ตร.ร่วมรับฟังเอง ขณะที่ญาติทั้งสองฝ่าย ต่างลุ้นคำตัดสิน จนท.300 นายคุ้มเข้ม สุดๆ (ชมคลิป)

0
1916

ประหารชีวิต “บังฟัด”และพวก คดีฆ่า 8 ศพผู้ใหญ่วรยุทธ ผบ.ตร.ร่วมรับฟังเอง ขณะที่ญาติทั้งสองฝ่าย ต่างลุ้นคำตัดสิน จนท.300 นายคุ้มเข้ม สุดๆ

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 28 ม.ค. ศาลจังหวัดกระบี่ ได้เบิกตัว นายชูริก์ฟัด หรือบังฟัด บ้านนพวงศ์วกุล นายคมสรรค์ เวียงนนท์ นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ นายอรุณ ทองคำ  นายประจักษ์ บุญทอย นายธรชัย จำนอง นายธวัฒชัย บุญคง และนางสาวชลิดา ร่วมกันฆ่านายวรยุท สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านเขางาม หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยลูกเมียและญาติ รวม 8 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ที่บ้านเลขที่ 14 / 3 บ้านของผู้ใหญ่วรยุทธ มายังศาลเพื่อตัดสินคดีอาญาที่ 298 / 2560 สถานีตำรวจภูธรอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นการสอบสวนปากคำพยานบุคคล 69 ปาก พยานวัตถุ 116 รายการ พยานเอกสาร 29 รายการ สำนวนการสอบสวนมีเอกสาร 5 แฟ้ม 14 รายการ 2,382 แผ่นและทรัพย์ ถูกประทุษร้าย 11 รายการ มูลค่า 854,500 บาท

โดย พลตำรวจตรี บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ นำกำลัง 300 นายตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกตัวอาคารของศาลจังหวัดกระบี่  และปิดเส้นทางสายหลักห่างจากตัวศาลจังหวัดไป 100 เมตรไม่ให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าใกล้พื้นที่ ทั้งมีการตรวจเข้มบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ศาลจังหวัดกระบี่

โดยมีญาติพี่น้องของนายชูริก์ฟัด และญาติพี่น้องของผู้ใหญ่วรยุทธ ข้างละไม่ต่ำกว่า 50 คนเดินทางมารับฟังการอ่านคำพิพากษาตัดสินในคดีกันอย่างใจจดใจจ่อ เจ้าหน้าที่ต้องแยกญาติทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกัน เพื่อป้องกันเหตุการณ์กระทบกระทั่งที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้บรรยากาศในบริเวณศาลจังหวัดกระบี่คึกคักเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะกองทัพสื่อมวลชนทุกแขนงที่มารอทำข่าว,,,,,

ผบ.ตร.ร่วมรับฟังศาลชั้นต้นพิพากษาตัดสินประหารชีวิตบังฟัดและพวก 6 คนจำคุก 2 คน

ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 นาฬิกา ที่ศาลจังหวัดกระบี่ บัลลัง 7 ศาลชั้นต้นได้เบิกตัวนายชูริก์ฟัด หรือบังฟัด บ้านนพวงศ์วกุล นายคมสรรค์ เวียงนนท์ นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ นายอรุณ ทองคำ  นายประจักษ์ บุญทอย นายธรชัย จำนอง นายธวัฒชัย บุญคง และนางสาวชลิดา สังขโชติ ร่วมกันฆ่านายวรยุท สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านเขางาม หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยลูกเมียและญาติ รวม 8 ศพ เหตุเกิดวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ที่บ้านเลขที่ 14 / 3 บ้านของผู้ใหญ่วรยุทธ ในคดีอาญาที่ 298 / 2560 สถานีตำรวจภูธรอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ โดยศาลชั้นตนได้อ่านคำพิพากษาศาล 180 หน้า ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเศษ ให้ผู้ต้องหารับทราบ

โดยมี พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ รวมถึงพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และ ญาติของผู้ต้องหาและญาติของผู้เสียชีวิตเข้าร่วมรับฟังคำตัดสิน ท่ามกลางบรรยากาศที่ตรึงเครียดของฝ่ายญาติผู้ต้องหา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ผลการตัดสินของศาลชั้นต้นในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 4396 / 2560 ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ เป็นโจทก์ฟ้องนายชูริก์ฟัดและพวก 8 คน สมคบวางแผนแต่งกายเครื่องแบบทหาร 32 ครั้งและครั้งที่ 3 ใช้ผ้าปิดคลุมศีรษะ เพื่อนำตัวนายวรยุทธ  ผู้ใหญ่บ้าน หน่วงเหนียวกักขังบังคับชำระหนี้ แสดงต่อว่าเป็นทหาร ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พบพาไปในที่สาธารณะ ติดตัวไปในหมู่บ้าน

และใส่กุญแจมือผู้ใหญ่บ้านและญาติพี่น้อง ใช้อาวุธปืนบังคับข่มขืนใจให้ทำสัญญากู้ยืมเงินเป็นเอกสารลงลายมือชื่อ โดยมีเจตนาฆ่าโดยไตรตรองไว้ก่อนโดยมีเจตนาฆ่าร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงให้ถึงแก่ความตาย และอันตรายแก่กายสาหัสเพื่อปกปิดความผิดของตน รับของโจรโดยช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ร่วมกันปล้นโดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์

จึงตัดสินประหารชีวิต นายชูริก์ฟัด หรือบังฟัด บ้านนพวงศ์ นายคมสรรค์ เวียงนนท์ นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ นายอรุณ ทองคำ  นายประจักษ์ บุญทอย นายธรชัย จำนอง ส่วนนายธวัฒชัย บุญคง จำคุก 1 ปี  9 เดือน และนางสาวชลิดา สังขโชติ จำคุก 12 เดือน

ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ห้องประชุมพิทักษ์กระบี่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยทีมสอบสวนและทีมสืบสวน จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 และจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ร่วมรับช่อดอกไม้สดจากพ่อตานายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านเขางามที่ถูกฆ่าพร้อมด้วยญาติพี่น้องรวม 8 ศพ และจากชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แลส่งสำนวนคดีจนศาลพิจารณาตัดสินประหารชีวิตและจำคุก
นายชูริก์ฟัด หรือบังฟัด บ้านนพวงศ์ และพวก 6 คน จำคุก 2 คน

จากนั้นได้แถลงข่าวมีใจความว่าต้องขอขอบคุณท่านผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกระบี่ ที่ได้พิจารณาสำนวนอย่างรอบคอบละเอียดทุกประเด็น ที่ทางคณะสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนตั้งแต่ต้น วันนี้ตนและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้มารับฟังคำพิพากษาคดีฆ่า ผู้ใหญ่วรยุทธ สังหลัง กับพวกรวม 8 ศพ ตนได้กล่าวไปตอนทำคดีใหม่ๆว่า หลังจากที่ได้ตัวผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาแล้ว เชื่อว่าต้องประหารชีวิตแน่นอนอย่างที่ได้พูดคุยในการแถลงข่าวที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด คดีนี้อย่างไรเชื่อว่าประสบการณ์ที่ทำงานทักษะด้านนี้มา เป็นไปตามที่ท่านผู้พิพากษาได้ตัดสินไปแล้วว่าประหารชีวิต ตามพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจได้รวบรวมและส่งให้อัยการส่งฟ้อง

ส่วนคดีนี้กระทบต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ คดีนี้เป็นเรื่องภายใน ส่วนการท่องเที่ยวเป็นเรื่องคนต่างชาติ จริงๆ แล้วถ้าคดีนี้เราจับไม่ได้จะกระทบต่อการท่องเที่ยวบ้างพอสมควร เมื่อตนลงมาสั่งการตั้งแต่แรกเชื่อว่าคดีนี้สามารถจับคนร้ายได้ เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวไม่มีผลกระทบเท่าไหร่ ตนถือว่าเป็นคดีที่สมบูรณ์ทั้งตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษาได้แถลงคำพิพากษาเกือบ 2 ชั่วโมง ประมาณเกือบ 160 หน้าในคำฟ้อง

ด้านพันตำรวจเอก สมควร ขุนทรัพย์ รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทีมงานร่วมกับพื้นที่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ตั้งข้อหาหลายข้อหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตน ร่วมกันบุกรุก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.กระบี่ / รายงาน